“สนธิรัตน์” ถกหน่วยงานในกระทรวงพลังงานและเอกชนด้านพลังงาน รับมือ โควิด-19 สรุปได้ 3 แนวทางเบื้องต้น โดยจะมีการแลกเปลี่ยนมาตรการการปฏิบัติงานในแต่ละองค์กร เพื่อป้องกันการระบาดของไวรัสโควิด -19 เช่น แจกเจลล้างมือในปั๊ม การหาแนวทาง ลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานให้กับประชาชน ทั้งน้ำมัน ก๊าซหุงต้ม ไฟฟ้า และแก้กฎหมายนำเอทานอลผลิตเป็นแอลกอฮอล์ ลดภาวะการขาดแคลน
วันนี้ (5 มี.ค.63) นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เป็นประธานการประชุมหารือแนวทางความร่วมมือในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) และการลดผลกระทบทางเศรษฐกิจ โดยได้ร่วมมือกับหน่วยงานในสังกัดกระทรวงพลังงาน และภาคเอกชนด้านพลังงาน อาทิ ปตท. กฟผ. ไทยออยล์ จีซี ปตท.สผ. เชฟรอน โออาร์ เชลล์ บางจาก เอสโซ่ ราช กรุ๊ป กัลฟ์ฯ บี กริม เพาวเวอร์ จีพีเอสซี
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า มาตรการที่กระทรวงพลังงานและผู้ประกอบการด้านพลังงาน จะนำมาใช้ในการลดผลกระทบต่อประชาชน มีด้วยกัน 3 แนวทางประกอบด้วย 1. หาแนวทางการลดค่าน้ำมันเชื้อเพลิง ค่าแก๊สหุงต้ม และค่าไฟฟ้า เพื่อลดค่าใช้จ่ายให้ผู้บริโภค 2. การแก้ไขกฎหมายเพื่อให้สามารถนำเอทานอลไปผลิตแอลกอฮอล์เพื่อลดภาวะการขาดแคลน 3. แลกเปลี่ยนมาตรการการปฏิบัติงานในแต่ละองค์กร เพื่อป้องกันการระบาดของไวรัสโควิด -19
ทั้งนี้ ในเบื้องต้นได้มอบหมายให้หน่วยงานพิจารณาแนวทางการช่วยเหลือ เช่น การแจกเจลล้างมือในสถานีบริการน้ำมันเพื่อป้องกันการแพร่กระจายเชื้อ Covid-19 รวมทั้งการวางแผนป้องกันจากพนักงานเนื่องจากหลายหน่วยงานเป็นองค์การขนาดใหญ่ จึงต้องมีมาตรการที่เข้มข้น ไม่ให้เกิดปัญหาในอนาคต
“การหารือในวันนี้ เพื่อนำไปสู่มาตรการแก้ปัญหาวิกฤติเศรษฐกิจและบรรเทาความเดือดร้อนประชาชน ซึ่งผมได้มอบให้ทุกหน่วยงานร่วมกันวางแผนขับเคลื่อนร่วมกันเพื่อให้ประเทศสามารถข้ามผ่านวิกฤตนี้ไปได้” นายสนธิรัตน์กล่าวเพิ่ม