รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ติดตามสถานการณ์โรงงาน Crude Oil Processing Facility บริษัท Aramco (อารามโค) รัฐวิสาหกิจน้ำมันของซาอุดีอาระเบียถูกโจมตี ยังไม่กระทบการนำเข้าน้ำมันของไทย พร้อมเตรียมแผนฉุกเฉินไว้รองรับแล้ว เช่นเดียวกับกรณีที่เคยเกิดเหตุการณ์ที่ช่องแคบฮอร์มุซ
วันนี้ (15 ก.ย.62)นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยถึงกรณีที่ Crude Oil Processing Facility หรือ โรงงานที่ทำหน้าที่กำจัดสารต่างๆ ที่ไม่ต้องการ ออกจากน้ำมันดิบ ก่อนส่งต่อไปยังผู้ซื้อของบริษัท Aramco (อารามโค) รัฐวิสาหกิจน้ำมันของซาอุดีอาระเบียถูกโจมตีว่า ขณะนี้กระทรวงพลังงานได้รับทราบสถานการณ์แล้ว และได้ประสานสอบถามไปยังบริษัท อารามโค และผู้เกี่ยวข้องต่างๆ ถึงผลกระทบในเบื้องต้นทราบความคืบหน้าล่าสุดว่า ทุกอย่างอยู่ในการควบคุม และอยู่ระหว่างสำรวจและประเมินความเสียหาย โดยยังไม่มีผลกระทบต่อการส่งออก เพราะโรงงานที่ถูกไฟไหม้อยู่ในบริเวณทะเลทรายจึงไม่มีผลกระทบต่อคลังน้ำมันที่เป็นแหล่งน้ำมันที่ป้อนให้กับทางกลุ่ม ปตท.
อย่างไรก็ดี กระทรวงพลังงานมีแผนรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินไว้เรียบร้อยแล้วเช่นเดียวกับกรณีที่เคยเกิดเหตุการณ์ที่ช่องแคบฮอร์มุซ โดยในภาพรวมประเทศมีปริมาณสำรองคงเหลือเพียงพอทั้งน้ำมันดิบสำรอง น้ำมันดิบที่อยู่ระหว่างการขนส่ง และน้ำมันสำเร็จรูป โดยจะไม่เกิดการขาดแคลนในระยะสั้นหากเกิดผลกระทบต่อการส่งออกน้ำมันของซาอุดิอาระเบีย และจากนี้ไปกระทรวงพลังงานจะมีการเรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อประเมินสถานการณ์และติดตามอย่างใกล้ชิด