คณะอนุกรรมาธิการ พิจารณาศึกษาด้านพลังงานทดแทน วุฒิสภา 4 กระทรวงที่เกี่ยวข้องทั้งเกษตร อุตสาหกรรม พลังงาน พาณิชย์ ควรร่วมมือกันยกร่าง พ.ร.บ. ปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์มเพื่อดูแลทุกห่วงโซ่ปาล์มน้ำมัน แบบครบวงจร
ผู้สื่อข่าวศูนย์ข่าวพลังงาน ( Energy News Center -ENC ) รายงานว่า เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2568 ที่ผ่านมา นายสรชาติ วิชย สุวรรณพรหม ประธานคณะอนุกรรมาธิการ พิจารณาศึกษาด้านพลังงานทดแทน วุฒิสภา ได้เชิญตัวแทนหน่วยงาน กระทรวงเกษตรฯ ชี้แจง กรณีการยกร่าง พ.ร.บ. ปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์ม โดยที่ประชุม กมธ.ได้เสนอแนะการพิจารณาผลักดันร่าง พ.ร.บ.ฉบับดังกล่าวควรเป็นความร่วมมือกันทั้ง 4 กระทรวงคือกระทรวงเกษตรฯ กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงพลังงาน กระทรวงพาณิชย์ เพื่อร่วมกันดูแลอย่างครบวงจรทุกห่วงโซ่ปาล์มน้ำมัน
![](https://www.energynewscenter.com/wp-content/uploads/2025/02/IMG_9001.jpeg)
โดยมีการกำหนดธีมการยกร่าง พ.ร.บ.ให้ชัดเจน เช่นการช่วยเหลือชาวสวนปาล์ม แผนการลดต้นทุนการผลิตให้เกษตรกร การหาช่องทางพัฒนาพันธ์ุปาล์มน้ำมัน เพื่อให้มีเปอร์เซ็นต์ของน้ำมันปาล์มมากขึ้น การเพิ่มผลผลิตต่อไร่ให้เพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ที่ประชุม กมธ. มองว่า ปัจจุบันปาล์มน้ำมัน มีหลายหน่วยงานร่วมดูแล โดยใช้อำนาจการกำกับดูแลตามกฎหมายที่ตัวเองมีอยู่ โดยกระทรวงเกษตรฯ ดูแลต้นน้ำ ในการปลูกปาล์มน้ำมัน จนถึงโรงสกัด กระทรวงอุตสาหกรรม ดูแลโรงกลั่น กระทรวงพลังงาน ดูแลน้ำมันปาล์ม เพื่อผสมไบโอดีเซล กระทรวงพาณิชย์ดูแลด้านการตลาด การส่งออก ราคาน้ำมันปาล์ม ดังนั้น จึงเสนอให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันยกร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้อย่างจริงจัง ในการดูแลทุกห่วงโซ่ปาล์มน้ำมัน
![](https://www.energynewscenter.com/wp-content/uploads/2025/02/IMG_9002-1024x768.jpeg)
![](https://www.energynewscenter.com/wp-content/uploads/2025/02/IMG_9004-1024x707.jpeg)
พร้อมกันนี้ที่ประชุม กมธ. ได้เชิญตัวแทนจากสำนักงานกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน มาชี้แจงถึงงบประมาณของกองทุนฯที่ได้รับจัดสรรในปี 68 วงเงิน 3,500 ล้านบาท โดยเห็นว่ากลุ่มชาวบ้านควรจะได้รับงบประมาณสนับสนุนจากกองทุนฯอย่างทั่วถึง เป็นธรรม โดยที่ผ่านมาการจัดสรรเงินมีความยุ่งยากซับซ้อน กระจายไม่ทั่วถึง อย่างไรก็ตาม ทางสำนักงานกองทุนฯชี้แจงว่า การจัดสรรเงินกองทุนฯทาง สตง.และปปง. ต้องการให้กำหนดเงื่อนไขเพิ่มเติม เพื่อป้องกันการทุจริต จึงต้องกำหนดเงื่อนไขให้รัดกุม