สำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (สกนช. ) ประกาศสถานะเงินกองทุนฯ ล่าสุดเหลือ -85,997 ล้านบาท ลดต่ำกว่าระดับการติดลบที่ 1 แสนล้านบาท ต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 เหตุราคาน้ำมันโลกลดลง และคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) สั่งเรียกเก็บเงินผู้ใช้ดีเซลส่งเข้ากองทุนฯ ต่อเนื่อง ขณะที่ผู้ค้าน้ำมันเรียกเก็บค่าการตลาดระดับสูง โดยดีเซลเก็บถึง 2.26 บาทต่อลิตร และกลุ่มเบนซิน 3-4 บาทต่อลิตร
ผู้สื่อข่าวศูนย์ข่าวพลังงาน (Energy News Center – ENC) รายงานว่า สถานการณ์เงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงล่าสุด ที่รายงานโดยสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (สกนช. ) ณ วันที่ 24 พ.ย. 2567 พบว่า เงินกองทุนฯ ติดลบลดลงเหลือ -85,997 ล้านบาท โดยมาจากบัญชีน้ำมันติดลบรวม -38,636 ล้านบาท และบัญชีก๊าซหุงต้ม (LPG) ติดลบรวม -47,361 ล้านบาท
ทั้งนี้จะเห็นได้ว่ากองทุนฯ เหลือเงินติดลบน้อยลงต่ำกว่าระดับ 1 แสนล้านบาท ติดต่อกันเป็นเดือนที่ 2 นับตั้งแต่เดือน ก.ย. 2567 ที่เคยติดลบระดับ 1.01 แสนล้านบาท โดยตลอดปี 2567 นี้ มีช่วงที่เงินกองทุนฯ ติดลบน้อยที่สุดคือ เดือน ม.ค. 2567 เงินกองทุนฯ ติดลบรวม -80,101 ล้านบาท และสูงสุดในเดือน ก.ค. 2567 ที่เงินกองทุนฯ ติดลบสูงถึง 111,663 ล้านบาท
การที่เงินกองทุนฯ ติดลบน้อยลง เกิดจากราคาน้ำมันโลกที่ปรับลดลง ส่งผลให้กองทุนฯ สามารถหยุดชดเชยราคาดีเซลและหันกลับมาเรียกเก็บเงินจากผู้ใช้ดีเซลเพื่อส่งเข้ากองทุนฯ ลดปัญหาภาระหนี้กองทุนฯ ลงได้บ้าง โดยปัจจุบันคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) ได้เรียกเก็บเงินทั้งผู้ใช้น้ำมันดีเซลและกลุ่มเบนซินส่งเข้ากองทุนฯ ดังนี้
ผู้ใช้น้ำมันเบนซิน ออกเทน 95 ต้องส่งเงินเข้ากองทุนฯ 10.68 บาทต่อลิตร, น้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95 และ 91 ส่งเข้าถึง 4.60 บาทต่อลิตร, น้ำมันแก๊สโซฮอล์ E20 ส่งเข้า 2.61 บาทต่อลิตร, น้ำมันแก๊สโซฮอล์ E85 ส่งเข้า 1.16 บาทต่อลิตร (ปัจจุบันยอดการใช้น้ำมันกลุ่มเบนซิน-แก๊สโซฮอล์ อยู่ที่ 31.52 ล้านลิตรต่อวัน)
ส่วนผู้ใช้น้ำมันดีเซลและดีเซล B20 ต้องส่งเงินเข้ากองทุนฯ 1.18 บาทต่อลิตร และดีเซลเกรดพรีเมียมส่งเข้ากองทุนฯ 2.68 บาทต่อลิตร (ปัจจุบันยอดการใช้น้ำมันกลุ่มดีเซลรวมอยู่ที่ 66.74 ล้านลิตรต่อวัน)
สำหรับราคาน้ำมันโลกล่าสุด ณ วันที่ 28 พ.ย. 2567 เวลาประมาณ 15.00 น. ราคาน้ำมันดิบดูไบอยู่ที่ระดับ 72.60 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล ราคาไม่เปลี่ยนแปลง ส่วนน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) อยู่ที่ 68.57 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล ลดลง 0.15 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล และราคาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) อยู่ที่ 72.69 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล ลดลง 0.14 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล
ส่วนค่าการตลาดของผู้ค้าน้ำมัน ที่รายงานโดยสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) ณ วันที่ 28 พ.ย. 2567 พบว่าค่าการตลาดกลุ่มเบนซิน-แก๊สโซฮอล์ยังคงทรงตัวในระดับสูง โดยน้ำมันเบนซินออกเทน 95 ถูกเรียกเก็บค่าการตลาด 4.89 บาทต่อลิตร, น้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95 มีค่าการตลาดที่ 3.61 บาทต่อลิตร, น้ำมันแก๊สโซฮอล์ 91 อยู่ที่ 3.70 บาทต่อลิตร, น้ำมันแก๊สโซฮอล์ E20 อยู่ที่ 3.79 บาทต่อลิตร, น้ำมันแก๊สโซฮอล์ E85 อยู่ที่ 4.13 บาทต่อลิตร, ดีเซล อยู่ที่ 2.26 บาทต่อลิตร โดยเฉลี่ยค่าการตลาดระหว่าง 1-28 พ.ย. 2567 อยู่ที่ 2.44 บาทต่อลิตร (จากค่าการตลาดที่เหมาะสมที่ 1.5-2 บาทต่อลิตร)