ปตท. ประกาศปรับลดราคาก๊าซ NGV สำหรับรถทั่วไปลงเหลือ 18.15 บาทต่อกิโลกรัม ตามกลไกตลาด นับเป็นราคาต่ำที่สุดของปี 2567 ในขณะที่ราคา NGV สำหรับรถแท็กซี่และรถโดยสารสาธารณะ ในโครงการบัตรสิทธิประโยชน์ฯ ขยับขึ้นจาก 14.62 บาทต่อกิโลกรัม เป็น 15.59 บาทต่อกิโลกรัม มีผลระหว่าง 1-15 ก.ค. 2567 นี้
ผู้สื่อข่าวศูนย์ข่าวพลังงาน (Energy News Center – ENC) รายงานว่า บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ประกาศลดราคาก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์ (NGV) ทั่วไปเหลือ 18.15 บาทต่อกิโลกรัม ซึ่งมีผลระหว่างวันที่ 1-15 ก.ค. 2567 ซึ่งนับเป็นราคาต่ำที่สุดในปี 2567 อีกครั้ง หลังจากในเดือน พ.ค. 2567 เคยต่ำสุดอยู่ที่ 18.35 บาทต่อกิโลกรัม
โดย ปตท. ได้เริ่มปรับราคาจำหน่ายมาตั้งแต่เดือน ก.พ. 2567 ซึ่งขณะนั้นราคา NGV จำหน่ายอยู่ที่ 18.95 บาทต่อกิโลกรัม ต่อมาในเดือน มี.ค. 2567 ปรับขึ้นเป็น 19.59 บาทต่อกิโลกรัม ส่วนเดือน เม.ย. 2567 ได้ปรับลดลงอีกครั้งเหลือ 18.66 บาทต่อกิโลกรัม และในเดือน พ.ค. อยู่ที่ 18.35 บาทต่อกิโลกรัม ล่าสุดในเดือน มิ.ย. และ ก.ค. 2567 ราคาลดลงต่ำสุดในรอบปี 2567 อยู่ที่ 18.15 บาทต่อกิโลกรัม ซึ่งราคา NGV ดังกล่าวได้เปลี่ยนแปลงตามกลไกตลาดเป็นหลัก
สำหรับในส่วนของราคา NGV ใน “โครงการบัตรสิทธิประโยชน์กลุ่มรถโดยสารสาธารณะ” ปัจจุบันกระทรวงพลังงานยังขอความร่วมมือจาก ปตท. ให้จำหน่ายในราคาถูกต่อไปก่อน เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการกลุ่มรถโดยสาร เบื้องต้นโครงการดังกล่าวจะช่วยเหลือราคา NGV ให้ผู้ร่วมโครงการฯ เป็นเวลา 2 ปี หรือภายในเดือน ธ.ค. 2568
โดยที่ผ่านมาได้กำหนดราคาจำหน่าย NGV ในโครงการฯ ไว้ที่ 14.62 บาทต่อกิโลกรัม เป็นเวลา 6 เดือน (ม.ค.- มิ.ย. 2567) จากนั้นจะพิจารณาทบทวนราคาอีกครั้ง ซึ่งล่าสุด ปตท. ได้ประกาศปรับราคา NGV สำหรับรถโดยสารธารณะเป็นดังนี้ 1. รถแท็กซี่และรถโดยสารสาธารณะ หมวด 1 และหมวด 4 (กทม.) ปรับราคาขึ้นจาก 14.62 บาทต่อกิโลกรัม เป็น 15.59 บาทต่อกิโลกรัม
2.รถแท็กซี่และรถโดยสารสาธารณะ หมวด 2 และหมวด 3 ราคาไม่เปลี่ยนแปลงอยู่ที่ 18.15 บาทต่อกิโลกรัม (เป็นราคาที่เท่ากับราคา NGV ทั่วไป 18.15 บาทต่อกิโลกรัม) แต่ในส่วนนี้กำหนดตรึงราคาไว้ไม่เกิน 18.59 บาทต่อกิโลกรัม
ทั้งนี้รถแท็กซี่และรถโดยสารสาธารณะ หมวด 1 และหมวด 4 (กทม.) ที่ได้ใช้ราคาถูกสุดที่ 15.59 บาทต่อกิโลกรัม แบ่งเป็น หมวด 1 คือ เส้นทางขนส่งประจำทางด้วยรถโดยสารภายในเขต กทม. เทศบาล สุขาภิบาล เมืองและเส้นทางต่อเนื่อง ส่วนหมวดที่ 4 คือ เส้นทางขนส่งประจำทางด้วยรถโดยสารซึ่งประกอบด้วยเส้นทางหลักสายเดียว หรือเส้นทางสายหลักและเส้นทางสายย่อย ซึ่งแยกจากเส้นทางสายหลักไปยังอำเภอ หมู่บ้าน หรือเขตชุมชน
อย่างไรก็ตามราคา NGV สำหรับกลุ่มรถโดยสารสาธารณะนั้น ทางกระทรวงพลังงานยังขอความร่วมมือจาก ปตท. ให้ช่วยตรึงราคาไปก่อน ส่วนรถยนต์ทั่วไปที่เติม NGV นั้น ทาง ปตท. จะปรับเปลี่ยนราคาตามกลไกตลาดที่แท้จริง เพื่อไม่ให้ประสบปัญหาการขายขาดทุน เนื่องจากตลอด 2 ปีที่ผ่านมา (1 พ.ย. 2564-30 พ.ย. 2566) ปตท.ช่วยลดราคา NGV ให้ประชาชน และต้องแบกรับภาระมาแล้วกว่า 17,000 ล้านบาท สำหรับข้อมูลจาก ปตท. ระบุว่า ปตท.มีปั๊ม NGV ทั้งสิ้น 343 สถานี มีปริมาณการจำหน่ายอยู่ที่ 3,472 ตันต่อวัน
ทั้งนี้เมื่อพิจารณาทิศทางราคา NGV ในอนาคตพบว่า ใน (ร่าง) แผนปฏิบัติการด้านน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ. 2567-2580 (Oil Plan 2024) มีการกำหนดให้ราคา NGV ต้องเป็นไปตามกลไกตลาดตั้งแต่ปี 2567-2575 พร้อมสนับสนุนให้เปลี่ยนรถโดยสารสาธารณะเป็นยานยนต์ไฟฟ้า (EV) แทนรถที่ใช้ก๊าซหุงต้ม (LPG) และ NGV ดั้งเดิม ตามนโยบาย 30@30 ซึ่งจะต้องดำเนินการภายในปี 2567-2580
สำหรับนโยบาย 30@30 คือ มาตรการส่งเสริมยานยนต์ไฟฟ้า (EV) พร้อมตั้งเป้าหมายให้ภายในปี ค.ศ. 2030 การผลิตยานยนต์ในประเทศจะต้องเป็น EV อย่างน้อย 30% ของการผลิตรถยนต์ทั้งหมด