กองทุนน้ำมันฯ หมดวงเงินพยุงราคา LPG แค่สิ้นเดือน เม.ย. 2567 เท่านั้น

397
- Advertisment-

กองทุนน้ำมันฯ เหลือวงเงินชดเชยราคา LPG ได้อีกแค่สิ้นเดือน เม.ย. 2567 นี้เท่านั้น ท่ามกลางแรงกดดันจากมติ คณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) ที่กำหนดให้ตรึงราคา LPG ไว้ที่ 423 บาทต่อถังขนาด 15 กิโลกรัม เป็นเวลา 3 เดือน นับตั้งแต่ 1 เม.ย.-30 มิ.ย. 2567 รอลุ้นรัฐบาลจัดสรรงบกลางมาช่วยตรึงราคาที่เหลืออีก 2 เดือน ชี้หากไม่ได้รับการช่วยเหลือ อาจต้องขยายกรอบวงเงิน LPG เพิ่ม แม้กองทุนฯ จะถังแตกแล้วก็ตาม และเตรียมแนวทางปรับขึ้นราคา LPG แบบขั้นบันไดในอนาคต   

ผู้สื่อข่าวศูนย์ข่าวพลังงาน (Energy News Center – ENC) รายงานว่า กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงกำลังจะประสบปัญหาการขาดแคลนวงเงินสำหรับชดเชยราคาก๊าซหุงต้ม (LPG) อีกครั้ง ทั้งนี้สืบเนื่องจากมติคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) เมื่อวันที่ 29 มี.ค. 2567 ได้มีมติให้ตรึงราคา LPG ไว้เท่าเดิมที่ 423 บาทต่อถังขนาด 15 กิโลกรัม เป็นเวลา 3 เดือน ระหว่าง 1 เม.ย.-30 มิ.ย. 2567

โดยมีข้อแม้ให้กองทุนน้ำมันฯ เป็นผู้ชดเชยราคา LPG ดังกล่าวในเดือน เม.ย. 2567 หลังจากนั้นจะของบกลางจากรัฐบาลมาชดเชยราคา LPG แทนกองทุนน้ำมันฯ  สำหรับเดือน พ.ค.-มิ.ย. 2567 ซึ่งจะครอบคลุมการตรึงราคา LPG เป็นเวลา 3 เดือน ตามมติ กบง. ได้

- Advertisment -

อย่างไรก็ตามที่ผ่านมา คณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) เคยให้กรอบวงเงินชดเชยราคา LPG ไว้ไม่เกิน 48,000 ล้านบาท แต่ปัจจุบันใช้ไปแล้วถึง 47,213 ล้านบาท ดังนั้นจึงเหลือวงเงินสำหรับชดเชยราคา LPG ได้อีกเพียง 787 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะช่วยตรึงราคา LPG ได้แค่เดือน เม.ย. 2567 เท่านั้น

ปัจจุบันราคา LPG ที่แท้จริงอยู่ที่ 31 บาทต่อกิโลกรัม หรือ 465 บาทต่อถังขนาด 15 กิโลกรัม แต่กองทุนน้ำมันฯ ได้ชดเชยราคาอยู่ 3.91 บาทต่อกิโลกรัม ทำให้ราคาจำหน่ายเหลือ 25.87 บาทต่อกิโลกรัม เมื่อรวมค่าขนส่งแล้ว ราคาจำหน่ายจริงจะเท่ากับ 423 บาทต่อถังขนาด 15 กิโลกรัม ตามมติ กบง.

ดังนั้นภายในเดือน เม.ย. 2567 นี้ จะต้องมีความชัดเจนจากรัฐบาลว่าจะจัดสรรงบกลางมาช่วยดูแลราคา LPG ได้หรือไม่ กรณีหากไม่มีงบกลางเข้ามาช่วย ทาง กบน.อาจพิจารณาขยายกรอบวงเงินชดเชยราคา LPG ให้ครอบคลุมระยะเวลาที่เหลืออีก 2 เดือนในการตรึงราคา LPG ให้ถึงเดือน มิ.ย. 2567  

ในขณะที่ภาพรวมเงินกองทุนน้ำมันฯ ติดลบรวมถึง -103,620 ล้านบาท ซึ่งมาจากบัญชีน้ำมันติดลบรวม -56,407 ล้านบาท และบัญชี LPG ติดลบรวม -47,213 ล้านบาท (ข้อมูลจากเว็บไซต์สำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ณ วันที่ 14 เม.ย. 2567)

อย่างไรก็ตามหลังสิ้นสุดมาตรการตรึงราคาในเดือน มิ.ย. 2567 แล้ว ทาง กบน. อาจจำเป็นต้องพิจารณาปรับขึ้นราคา LPG แบบขั้นบันได ให้ราคาสะท้อนต้นทุนราคาตลาดโลก เพื่อลดภาระกองทุนน้ำมันฯ ลง เนื่องจากกองทุนน้ำมันฯ จำเป็นต้องแก้ปัญหาเงินติดลบให้กลับมามีรายรับรายวันเป็นบวกโดยเร็ว ภายในเดือน ต.ค. 2567 เพื่อเตรียมชำระคืนหนี้เงินต้นก้อนแรก 30,000 ล้านบาทให้สถาบันการเงิน ในเดือน พ.ย. 2567 นี้ สำหรับสร้างความน่าเชื่อถือของกองทุนน้ำมันฯ ต่อสถาบันการเงินต่อไป

สำหรับการชดเชยราคา LPG 423 บาทต่อถังขนาด 15 กิโลกรัม ได้ดำเนินการชดเชยมาตั้งแต่เดือน มี.ค. 2566 นับเป็นเวลา 1 ปีกว่าแล้ว และปัจจุบันยังเหลือหนี้ที่ต้องรอชำระให้กับโรงกลั่นจากการชดเชยราคา LPG ถึง 2.7 หมื่นล้านบาท แม้กองทุนน้ำมันฯ ยังมีรายรับจากผู้ใช้น้ำมันกลุ่มเบนซิน-แก๊สโซฮอล์ในแต่ละวัน แต่รายจ่ายที่มีสูงกว่า ทำให้ในแต่ละวันกองทุนน้ำมันฯ ต้องมีสถานะกลายเป็นเงินไหลออกทุกวันแทน     

Advertisment