กลุ่มปตท.ปรับตัวลดผลกระทบทางธุรกิจจากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกาและจีนโดยลดสัดส่วนการส่งออกสินค้ากลุ่มพลาสติกและปิโตรเคมีในตลาดจีน จาก70% เมื่อ5ปีที่แล้วเหลือประมาณ40% ซึ่งชดเชยด้วยการขยายการส่งออกไปยังตลาดใหม่เช่น อินเดีย แอฟริกา และกลุ่มประเทศรัสเซียเดิม
นายชาญศิลป์ ตรีนุชกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จํากัด (มหาชน)ตอบคำถามสื่อมวลชนเมื่อวันที่27 มิ.ย.2562 ถึงการปรับตัวของกลุ่มปตท.ต่อกรณีสงครามทางการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกาและจีน ว่า กลุ่มปตท.มีการปรับตัวเพื่อลดผลกระทบจากสถานการณ์ดังกล่าวมาได้ระยะหนึ่งแล้ว โดยพยายามที่จะปรับลดการส่งออกสินค้าโดยเฉพาะกลุ่มพลาสติกและปิโตรเคมี จากที่เคยมีสัดส่วนการส่งออกไปจีนสูงถึง70% ในช่วง5-6ปีที่ผ่านมา ก็ปรับลดลงเหลือประมาณ 40% ในปัจจุบัน และหันไปขยายตลาดส่งออกในกลุ่มประเทศ อินเดีย แอฟริกา และกลุ่มประเทศรัสเซียเดิม ทดแทน
ทั้งนี้ผลกระทบจากสงครามการค้าของสหรัฐอเมริกาและจีนเริ่มเห็นชัดมากขึ้นในไตรมาสแรกและไตรมาสที่สองของปีนี้ โดยที่ยอดมูลค่าส่งออกสินค้ากลุ่มพลาสติกและปิโตรเคมีไม่ได้ลดลงมาก แต่ได้รับมาร์จิ้นที่ลดลง
อย่างไรก็ตามยังเชื่อว่าสถานการณ์ความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกาและจีน ไม่น่าจะยืดเยื้อ เพราะวิสัยของพ่อค้า เมื่อต่างฝ่ายต่างได้รับผลกระทบ ก็จะต้องมีการเจรจาต่อรองกันในที่สุด
