จับตา กบน. หารือแก้ปัญหากองทุนน้ำมันฯ ถังแตก! ก่อนสิ้นสุดมาตรการตรึงราคาดีเซล และ LPG วันที่ 31 มี.ค. 2567

358
N4037
- Advertisment-

เงินกองทุนน้ำมันฯ ขยับติดลบมากขึ้นเป็น -93,498 ล้านบาท เหตุชดเชยราคาดีเซลและ LPG สูง อย่างละประมาณ 4.6 หมื่นล้านบาท ขณะมาตรการตรึงราคาดีเซลไม่ให้เกิน 30 บาทต่อลิตร และตรึงราคา LPG ไม่ให้เกิน 423 บาทต่อถังขนาด 15 กิโลกรัม จะสิ้นสุด 31 มี.ค. 2567 นี้ จับตาคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) ชี้ชะตาราคาดีเซลก่อนสิ้นเดือน มี.ค. นี้ แก้ปัญหากองทุนฯ ถังแตก

ผู้สื่อข่าวศูนย์ข่าวพลังงาน (Energy News Center – ENC) รายงานสถานการณ์กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงว่า สถานะเงินกองทุนน้ำมันฯ ล่าสุดที่รายงานโดยสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (สกนช.) เมื่อวันที่ 3 มี.ค. 2567 พบว่าเงินกองทุนน้ำมันฯ ติดลบมากขึ้นเป็น -93,498 ล้านบาท สูงขึ้นกว่าเดือน ก.พ. 2567 ที่ติดลบอยู่ -91,887 ล้านบาท  โดยเงินกองทุนฯ ติดลบเนื่องจากบัญชีน้ำมันติดลบอยู่ -46,742 ล้านบาท และบัญชีก๊าซหุงต้ม (LPG) ติดลบอยู่ -46,756 ล้านบาท

ทั้งนี้กองทุนฯ มีหนี้สินรวมสุทธิ 122,669 ล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่มาจากหนี้การชดเชยราคาน้ำมันเชื้อเพลิงต่างๆ 14,526 ล้านบาท , หนี้ชดเชยราคา LPG 2,538 ล้านบาท และหนี้เงินกู้ยืม 80,000 ล้านบาท เป็นต้น ขณะที่รายรับมาจากผู้ประกอบการน้ำมันประมาณ 772 ล้านบาท ,รายรับจากผู้จำหน่าย LPG 335 ล้านบาท และรายรับจาก LPG โรงกลั่นและโรงแยกรวม 565 ล้านบาท เป็นต้น อย่างไรก็ตามนับว่ารายจ่ายยังสูงกว่ารายรับส่งผลให้เงินกองทุนฯ ยังคงติดลบอย่างต่อเนื่อง

- Advertisment -

สำหรับในส่วนของการเรียกเก็บเงินผู้ใช้น้ำมันกลุ่มเบนซิน-แก๊สโซฮอล์เพื่อส่งเข้ากองทุนฯ นั้น ปัจจุบัน ณ วันที่ 28 ก.พ. 2567 คณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) ได้กำหนดให้ผู้ใช้น้ำมันประเภทต่างๆ ส่งเงินเข้ากองทุนฯ  ดังนี้ ผู้ใช้เบนซิน ต้องส่งเงินเข้ากองทุนฯ 9.38 บาทต่อลิตร, ผู้ใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95 ส่งเข้ากองทุนฯ 2.80 บาทต่อลิตร, น้ำมันแก๊สโซฮอล์ 91  ส่งเข้า 1.45 บาทต่อลิตร, ผู้ใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์ E20 ส่งเข้า 0.81 บาทต่อลิตร และผู้ใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์ E85 ส่งเข้า 0.16 บาทต่อลิตร

ส่วนผู้ใช้น้ำมันดีเซลนั้น กองทุนฯ ยังคงควักเงิน 4 บาทต่อลิตร เพื่อพยุงราคาดีเซลไม่ให้เกินลิตรละ 30 บาท ตามนโยบายรัฐบาล โดยจะสิ้นสุดมาตรการตรึงราคาดังกล่าวในวันที่ 31 มี.ค. 2567 ดังนั้นในเดือน มี.ค. 2567 นี้ ทาง กบน. ที่มีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เป็นประธาน จะต้องเร่งพิจารณาว่าจะดำเนินการอย่างไรกับราคาดีเซล เนื่องจากเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้กองทุนฯ ขาดสภาพคล่องทางการเงิน

นอกจากนี้ กบน.ยังต้องพิจารณาราคา LPG  ที่ กบน. ตรึงไว้ที่ 423 บาทต่อถังขนาด 15 กิโลกรัม ซึ่งก็จะสิ้นสุดมาตรการในวันที่ 31 มี.ค. 2567 เช่นเดียวกัน

ขณะที่ราคาน้ำมันตลาดโลกล่าสุด ณ วันที่ 6 มี.ค. 2567 เวลาประมาณ 15.30 น. ราคาน้ำมันดิบดูไบอยู่ที่ระดับ 80.88 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล ราคายังไม่เปลี่ยนแปลง ขณะที่น้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) อยู่ที่ 78.52 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 0.37 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล  และราคาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) อยู่ที่ 82.35 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 0.31 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล

สำหรับในส่วนของค่าการตลาดน้ำมันที่ผู้ค้าได้รับ ในวันที่ 6 มี.ค.2567 ซึ่งรายงานโดย สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) พบว่าค่าการตลาดของผู้ค้าน้ำมันยังทรงตัวระดับสูง โดยค่าการตลาดดีเซลอยู่ที่ 2.29 บาทต่อลิตร ส่วนกลุ่มเบนซินยังสูงอยู่ที่ประมาณ 3.4-3.7 บาทต่อลิตร โดยเฉลี่ยค่าการตลาดน้ำมันตั้งแต่ 1-6 มี.ค. 2567 อยู่ที่ 2.59 บาทต่อลิตร  (จากค่าการตลาดที่ควรได้ที่ 1.50-2 บาทต่อลิตร)

Advertisment