ครม.เห็นชอบลดราคาน้ำมันกลุ่มแก๊สโซฮอล์ เริ่ม 7 พ.ย.นี้ เป็นเวลา 3 เดือน

5820
- Advertisment-

คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติปรับลดภาษีน้ำมันกลุ่มเบนซินและแก๊สโซฮอล์ทุกชนิดลง 1 บาทต่อลิตร เป็นเวลา  3 เดือน เริ่มตั้งแต่ 7 พ.ย. 2566 ในขณะที่กระทรวงพลังงานจะใช้กลไกกองทุนน้ำมันเข้าไปร่วมด้วยเพื่อช่วยให้ราคาขายปลีกน้ำมันแก๊สโซฮอล์ 91 ลดลงให้ได้ 2.50 บาทต่อลิตร

วันนี้ 31 ต.ค. 2566 ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้มีมติเห็นชอบปรับลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันกลุ่มเบนซินลงทุกประเภท 1 บาทต่อลิตร เป็นระยะเวลา 3 เดือน เริ่มตั้งแต่วันที่ 7 พ.ย.2566 เป็นต้นไป

นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า ที่ประชุม ครม. เห็นชอบการปรับลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันเบนซินลงทุกประเภท 1 บาทต่อลิตร โดยแนวทางดำเนินการ ประกอบไปด้วย  1.การปรับลดภาษีสรรพสามิตสำหรับกลุ่มเบนซิน 1 บาทต่อลิตร จากอัตราปัจจุบันอยู่ที่ 6.50 บาทต่อลิตร ส่งผลให้น้ำมันกลุ่มเบนซินและแก๊สโซฮอล์ ทุกประเภทมีราคาลดลงไปด้วย โดยลดหลั่นไปตามอัตราส่วนผสมของน้ำมันเบนซินชนิดนั้น เช่น E10(น้ำมันแก๊สโซฮอล์ 91,95 ) ภาษีจัดเก็บลดลง 90 สตางค์ต่อลิตร , น้ำมันแก๊สโซฮอล์ E20 ลดลง 80 สตางค์ต่อลิตร , E85 ลดลง 15 สตางค์ต่อลิตร

- Advertisment -

และ 2. การลดเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ซึ่งจะลดลงอัตราเท่าใดนั้น ทางกองทุนฯ จะพิจารณาสถานการณ์ราคาน้ำมันโดยรวมในวันที่ 6 พ.ย. 2566 แล้วประกาศใหม่ มีผล 7 พ.ย. 2566 เมื่อรวมกับการลดภาษีก็จะทำให้ ราคาแก๊สโซฮอล์ 91 ลดลง 2.50 บาทต่อลิตร   

“ครม.เห็นชอบปรับลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันเบนซิน ลง 1 บาทต่อลิตร ดังนั้นในส่วนแก๊สโซฮอล์ 91 ภาษีลดลง 90 สตางค์ เราเคยคุยจะลดลง 2.50 บาท ที่ขาดไป 1.60 บาท ทางกระทรวงการคลังเสนอว่า ให้กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงไปบริหารจัดการเพิ่มเติม  ผมจะพยายามทำให้เพิ่มให้ได้  ให้ทันวันที่ 7 พ.ย. นี้” นายพีระพันธุ์ กล่าว

นอกจากนี้ นายพีระพันธุ์ ได้โพสต์ลงเฟสบุ๊คส่วนตัวระบุรายละเอียดการปรับลดราคากลุ่มเบนซินว่า แต่เดิมตัวเองในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานได้เสนอ ครม.ปรับลดราคาน้ำมันแก๊สโซฮอล์ 91 ลง 2.50 บาทต่อลิตร แต่เมื่อลงไปทำงานพบว่าอัตราภาษีสรรพสามิตสำหรับกลุ่มเบนซิน-แก๊สโซฮอล์ทุกประเภทเป็นอัตราเดียวกันหมด มิได้แยกอัตราภาษีสรรพสามิตสำหรับน้ำมันแก๊สโซฮอล์ 91 ไว้ต่างหาก

ดังนั้นวันนี้ (31 ต.ค.2566) จึงจำเป็นต้องให้ ครม. พิจารณาปรับลดภาษีสรรพสามิตสำหรับน้ำมันกลุ่มเบนซินและแก๊สโซฮอล์ทุกประเภทลงในอัตรา 1 บาทต่อลิตร และแบบ E10 ลดลง 90 สตางค์ , E20 ลดลง 80 สตางค์ และ E85 ลดลง 15 สตางค์

โดยกระทรวงการคลังเสนอให้กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงของกระทรวงพลังงานไปบริหารจัดการให้ปรับลดราคาสำหรับเบนซินแก๊สโซฮอล์ 91 ลงอีกประมาณลิตรละ 1.50 บาท ให้เป็นลิตรละ 2.50 บาท ตามที่กระทรวงพลังงานเคยเสนอไว้

“วันนี้ ครม. พิจารณาแล้วมีมติเห็นชอบโดยกระทรวงการคลังเสนอให้เป็นมติว่าให้กองทุนน้ำมันไปบริหารจัดการชดเชยเงินที่ต้องใช้จ่ายในส่วน 1.50 บาทต่อลิตร ดังกล่าวเองในภายหลังมีกำหนด 3 เดือน นับแต่วันที่ 7 พ.ย. 2566 ขอแสดงความยินดีกับพี่น้องประชาชน และขอขอบคุณท่านนายกรัฐมนตรี คณะรัฐมนตรี  กระทรวงการคลัง และผู้เกี่ยวข้องทุกท่านทุกฝ่ายอีกครั้งครับ” นายพีระพันธุ์ กล่าว

ด้านฐานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ล่าสุด (29 ต.ค. 2566) ยังติดลบ 74,292 ล้านบาท โดยแยกเป็นบัญชีน้ำมันติดลบ 28,938  ล้านบาท บัญชีก๊าซหุงต้ม (LPG) ติดลบ 45,354  ล้านบาท

Advertisment