คณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) จ่อเปิดประชุม 18 ก.ค. 2566 เตรียมพิจารณาช่วยเหลือผู้ใช้ดีเซล หลังหมดมาตรการลดภาษีดีเซล 5 บาทต่อลิตร ในวันที่ 20 ก.ค. 2566 ขณะที่การเรียกเก็บเงินผู้ใช้ดีเซลเข้ากองทุนฯ ยังไม่ถึงเป้าหมาย 5 บาทต่อลิตร เพื่อหวังนำเงินส่วนนี้มาใช้ตรึงราคาดีเซล โดยเก็บได้เพียง 3.14 บาทต่อลิตร เตรียมควักเนื้อดึงเงินในกองทุนฯ มาช่วยอีกแรง ส่งผลให้กองทุนฯ อาจกลับสู่ภาวะเงินไหลออกอีกครั้ง คาดช่วยพยุงราคาดีเซลไว้ก่อน 2 เดือน ก่อนพิจารณาสถานการณ์ต่อไป
ผู้สื่อข่าวศูนย์ข่าวพลังงาน (Energy News Center -ENC) รายงานว่า คณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) ที่มีนายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน ทำหน้าที่ประธานการประชุม จะเปิดประชุมในวันที่ 18 ก.ค. 2566 เพื่อพิจารณามาตรการช่วยเหลือผู้ใช้น้ำมันดีเซล หลังสิ้นสุดมาตรการลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซล 5 บาทต่อลิตร ในวันที่ 20 ก.ค. 2566 พร้อมแถลงข่าวอย่างเป็นทางการ
โดยที่ผ่านมากระทรวงพลังงานออกมาคาดการณ์ว่า กบน. อาจจะช่วยพยุงราคาดีเซลไว้เท่าเดิมที่ 31.94 บาทต่อลิตร โดยใช้เงินกองทุนฯ มาช่วยชดเชยภาษีดีเซล 5 บาทต่อลิตร เป็นเวลาอย่างต่ำประมาณ 2 เดือน เพื่อให้ประชาชนรับทราบสถานการณ์ที่แท้จริง หรือ จนกว่าจะได้รัฐบาลใหม่มาพิจารณาลดอัตราภาษีดีเซลให้อีกครั้ง แต่หากไม่มีการลดภาษีดีเซลให้อีก ทาง กบน. อาจพิจารณาทยอยปรับขึ้นราคาดีเซล แต่ไม่เกิน 33 บาทต่อลิตร ก็อาจเป็นไปได้
อย่างไรก็ตามปัจจุบันกองทุนน้ำมันฯ ยังไม่สามารถเรียกเก็บเงินผู้ใช้ดีเซลเข้ากองทุนฯ ได้ถึงเป้าหมายที่ 5-6 บาทต่อลิตร เพื่อชดเชยภาษีดีเซลที่อาจกลับมาเก็บเต็มจำนวนที่ 5 บาทต่อลิตร หลังสิ้นสุดมาตรการลดภาษีดีเซลในวันที่ 20 ก.ค. 2566 โดย ณ วันที่ 14 ก.ค. 2566 กบน. ได้เรียกเก็บเงินจากผู้ใช้ดีเซลอยู่ที่ 3.14 บาทต่อลิตร ดังนั้นหากไม่สามารถเรียกเก็บได้ถึง 5 บาทต่อลิตร อาจต้องนำเงินในกองทุนฯ มาจ่ายชดเชยภาษีแทน และจะส่งผลให้กองทุนฯ เกิดสภาพเงินไหลออกอีกครั้ง
โดยปัจจุบันกองทุนฯ อยู่ในสภาพมีเงินไหลเข้าประมาณ 357 ล้านบาทต่อวัน เป็นเงินที่เรียกเก็บจากผู้ใช้น้ำมันกลุ่มเบนซิน-แก๊สโซฮอล์รวม 78.86 ล้านบาทต่อวัน, เงินเรียกเก็บจากผู้ใช้และผู้ค้า LPG 22.74 ล้านบาทต่อวัน และเงินเรียกเก็บจากผู้ใช้ดีเซล 257.71 ล้านบาทต่อวัน
สำหรับภาพรวมเงินกองทุนฯ สุทธิยังคงติดลบจากการเข้าไปพยุงราคาน้ำมันและก๊าซหุงต้ม (LPG) ตลอดปี 2565 ที่เกิดภาวะราคาพลังงานโลกแพง โดยล่าสุด ณ วันที่ 9 ก.ค. 2566 กองทุนฯ มีเงินสุทธิติดลบ 52,270 ล้านบาท โดยมาจากบัญชีน้ำมันติดลบ 6,598 ล้านบาท และบัญชี LPG ติดลบ 45,672 ล้านบาท
ส่วนสถานการณ์ราคาน้ำมันโลกล่าสุด ณ วันที่ 17 ก.ค. 2566 เวลาประมาณ 15.30 น. ราคาน้ำมันดิบดูไบอยู่ที่ระดับ 79.89 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 0.81 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล ส่วนน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) อยู่ที่ 74.21 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล ลดลง 1.15 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล และราคาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) อยู่ที่ 78.71 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล ลดลง 1.16 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล
ขณะที่สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) ได้รายงานค่าการตลาด ณ วันที่ 17 ก.ค. 2566 โดยค่าการตลาดผู้ค้าน้ำมันดีเซลอยู่ที่ระดับ 2.32 บาทต่อลิตร สำหรับค่าการตลาดกลุ่มเบนซินอยู่ที่ประมาณ 3 บาทต่อลิตร โดยภาพรวมค่าการตลาดตั้งแต่วันที่ 1-17 ก.ค. 2566 อยู่ที่ 2.41 บาทต่อลิตร
