ปลัดพลังงาน ประกาศ 4 รายชื่อผู้ชิงตำแหน่ง “ผู้จัดการฯ กองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน” ได้แก่ พลโท ดร.กฤตภาส คงคาพิสุทธิ์, นายวันชัย บรรลือสินธุ์, นายรัฐฉัตร ศิริพานิช และนายยงยุทธ์ สวัสดิสวนีย์ โดยเตรียมแสดงวิสัยทัศน์ 28 เม.ย. 2566 ก่อนสรุปผลผู้รับตำแหน่ง เพื่อมาทำหน้าที่แทน “นายวีระศักดิ์ วีระธรรมโม” ที่ยื่นลาออกไปเมื่อเดือน ม.ค.2566 ที่ผ่านมา
ผู้สื่อข่าวศูนย์ข่าวพลังงาน (Energy News Center- ENC) รายงานความคืบหน้าการสรรหา “ผู้จัดการสำนักงานบริหารกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน” ว่า นายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน ได้ลงนามในฐานะประธานคณะทำงานสรรหาผู้จัดการสำนักงานบริหารกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน เมื่อวันที่ 25 เม.ย. 2566 ประกาศรายชื่อผู้สมัครชิงตำแหน่ง “ผู้จัดการสำนักงานบริหารกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน” ที่มีสิทธิ์เข้ารับการสัมภาษณ์เพื่อคัดเลือกให้ดำรงตำแหน่งผู้จัดการสำนักงานบริหารกองทุนฯ ทั้งสิ้น 4 ราย จากผู้สมัคร 5 ราย ได้แก่
1.พลโท ดร.กฤตภาส คงคาพิสุทธิ์ (เคยดำรงตำแหน่งคณะอนุกรรมาธิการพิจารณาศึกษาและติดตามด้านพลังงานทดแทน)
2. นายวันชัย บรรลือสินธุ์ (เคยดำรงตำแหน่งรองอธิบดีกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน หรือ พพ.)
3. นายรัฐฉัตร ศิริพานิช (เคยดำรงตำแหน่งรองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โทเทิ่ลแอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน))
4. นายยงยุทธ์ สวัสดิสวนีย์ (เคยดำรงตำแหน่งรองอธิบดีกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน หรือ พพ.)
โดยทั้ง 4 รายจะนำเสนอวิสัยทัศน์ และแนวความคิดในการบริหารจัดการกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานและสัมภาษณ์ ในวันที่ 28 เม.ย. 2566 ทั้งนี้หากไม่มาตามกำหนดจะถือว่าสละสิทธิ์
อย่างไรก็ตามการเปิดรับสมัครตำแหน่ง “ผู้จัดการสำนักงานบริหารกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน” ในครั้งนี้ เพื่อสรรหาบุคลากรที่จะมาทำหน้าที่แทน “นายวีระศักดิ์ วีระธรรมโม” ที่ขอลาออกจากตำแหน่งผู้จัดการสำนักงานบริหารกองทุนฯ ไปตั้งแต่เดือน ม.ค. 2566 ที่ผ่านมา ทั้งที่ปฏิบัติงานได้เพียง 1 ปี 2 เดือน จากวาระงานที่กำหนดให้ดำรงตำแหน่งได้คราวละ 4 ปี และสามารถพิจารณาต่อสัญญาได้อีกวาระหนึ่งด้วย แต่นายวีระศักดิ์ ก็ยื่นลาออกก่อน
สำหรับภาพรวมฐานะของกองทุนฯ ที่สรุปโดยสำนักงานบริหารกองทุนฯ เมื่อวันที่ 31 มี.ค. 2566 กองทุนฯ มีเงินคงเหลือรวม 12,859.93 ล้านบาท จากในอดีตที่เคยมีวงเงินสูงสุด ณ วันที่ 31 ก.ค. 2561 อยู่ที่ 41,874 ล้านบาท อย่างไรก็ตามล่าสุดกองทุนฯ ได้กำหนดกรอบการใช้จ่ายเงินกองทุนฯ ปี 2565-2567 ไว้ โดยให้ใช้จ่ายเงินปีละ 4,000 ล้านบาท ภายในวงเงินรวม 12,000 ล้านบาท โดยให้คณะกรรมการกองทุนฯ มีอำนาจปรับปรุงแนวทาง หลักเกณฑ์ เงื่อนไขและลำดับความสำคัญของการใช้จ่ายเงินกองทุนฯ และการจัดสรรเงินตามแผนงานต่างๆ ได้ตามความจำเป็นและเหมาะสม ซึ่งในปี 2566 นี้ได้ให้เงินสนับสนุนเพียง 2,000 ล้านบาท ลดลงจากปี 2565 ที่กำหนดไว้ 3,850 ล้านบาท และย้อนไปในปี 2564 ให้เงินสนับสนุนโครงการฯ ถึง 6,500 ล้านบาท