นายสมเกียรติ เมสันธสุวรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ดับบลิวเอชเอ ยูทิลิตี้ส์ แอนด์ พาวเวอร์ หรือ WHAUP
- Advertisment-

WHAUP ประกาศเดินหน้าขยายพอร์ตพลังงานหมุนเวียนทั้งพลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานจากขยะอุตสาหกรรม และพลังงานประเภทอื่น ๆ ทั้งภายในและต่างประเทศ ตั้งเป้ายอดเซ็นสัญญาซื้อขายไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนสะสมเพิ่มเป็น 300 เมกะวัตต์ ในปี 2566 จากปีก่อนที่มียอดเซ็นสัญญาสะสม 136 เมกะวัตต์ พร้อมเผยร่วมมือกับ ปตท. และ Sertis พัฒนาแพลตฟอร์ม RENEX เพื่อซื้อขายพลังงานหมุนเวียนและต่อยอดให้สามารถซื้อขายคาร์บอนเครดิตได้ด้วย

นายสมเกียรติ เมสันธสุวรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ดับบลิวเอชเอ ยูทิลิตี้ส์ แอนด์ พาวเวอร์ หรือ WHAUP เปิดเผยว่าในปี 2566 บริษัทฯ พร้อมเดินหน้าขยายพอร์ตพลังงานหมุนเวียนทั้งพลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานจากขยะอุตสาหกรรม และพลังงานประเภทอื่น ๆ ทั้งภายในและต่างประเทศ  โดยตั้งเป้ายอดเซ็นสัญญาซื้อขายไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนสะสมเพิ่มเป็น 300 เมกะวัตต์ จากปีก่อนที่มียอดเซ็นสัญญาสะสม 136 เมกะวัตต์ ทั้งนี้บริษัทฯ ได้เข้าร่วมเสนอโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนในรูปแบบ Feed-in Tariff (FiT) ซึ่งเปิดรับซื้อโดยคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน โดยมีโครงการของบริษัทฯ ผ่านการคัดเลือกด้านเทคนิคจำนวน 5 โครงการ และคาดว่าจะทราบผลการตัดสินรอบสุดท้ายภายในเดือนมีนาคมนี้

ขณะเดียวกันบริษัทฯ ยังให้ความสำคัญ ในเรื่องการนำโซลูชันดิจิทัลที่เป็นนวัตกรรมใหม่ๆ เข้ามาใช้ต่อยอดทางธุรกิจ โดยได้ร่วมมือกับ ปตท. และ Sertis ในการพัฒนาแพลตฟอร์มการซื้อขายพลังงานแบบ Peer-to-Peer Energy Trading โดยมีชื่อว่า Renewable Energy Exchange หรือ RENEX ซึ่งแพลตฟอร์มดังกล่าว ใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนมาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและความปลอดภัยของการทำธุรกรรม และได้เริ่มนำไปใช้ในการซื้อขายไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ในกลุ่มลูกค้าภายในนิคมอุตสาหกรรมของดับบลิวเอชเอ โดยมีลูกค้าชั้นนำเข้าร่วมแล้วจำนวน 54 ราย นอกจากนี้ บริษัทฯ อยู่ระหว่างแผนการศึกษาและพัฒนาให้สามารถเกิดการซื้อขายคาร์บอนเครดิต ในแพลตฟอร์มดังกล่าวได้อีกด้วย  

- Advertisment -

ในปี 2565 ที่ผ่านมา บริษัทมีสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) ตามสัดส่วนการถือหุ้นรวมจำนวน 683  เมกะวัตต์ โดยได้มีการเซ็นสัญญากับบริษัท ฟอร์ด มอเตอร์ คัมปะนี (ประเทศไทย) เพื่อติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคาที่จอดรถ  (Solar Carpark) ขนาดกำลังผลิตไฟฟ้า 7.7 เมกะวัตต์ บนพื้นที่รวม 32,200 ตารางเมตร ที่นิคมอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอ อีสเทิร์นซีบอร์ด 1 ซึ่งถือเป็นการติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคาที่จอดรถที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย

ทั้งนี้ บริษัทฯ ตั้งเป้ารายได้และส่วนแบ่งกำไรปกติรวม 5 ปี (2566-2570) จากธุรกิจสาธารณูปโภค (น้ำ) และพลังงานหมุนเวียน ที่ 27,000 ล้านบาท และวางงบลงทุน 5 ปี ไว้ที่ 18,500 ล้านบาท

Advertisment