กระทรวงพลังงาน ติดตามราคาดีเซลหลังปรับเพิ่มสัดส่วนผสมไบโอดีเซลเป็น B7 ช่วยลดต้นทุนราคาน้ำมันลงได้ 0.05-0.10 บาทต่อลิตร เหตุราคาน้ำมันปาล์มถูกลง ส่วนจะกลับมาจำหน่าย B10 และ B20 เมื่อไหร่นั้น ขึ้นอยู่กับแผนน้ำมัน ที่กรมธุรกิจพลังงานกำลังดำเนินการจัดทำอยู่ ด้าน กบน. ปรับลดชดเชยดีเซลเหลือ 2.95 บาทต่อลิตร หลังราคาน้ำมันโลกลดลง ขณะค่าการตลาดดีเซลต่ำกว่า 1 บาทต่อลิตรอีกครั้ง
แหล่งข่าวกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า หลังจากที่คณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) เมื่อวันที่ 27 ก.ย. 2565 มีมติให้ปรับเพิ่มสัดส่วนการผสมน้ำมันปาล์มบริสุทธิ์ในน้ำมันดีเซลจาก B5 (น้ำมันดีเซลที่ผสมน้ำมันปาล์มบริสุทธิ์ 5% ในทุกลิตร) เป็นน้ำมันดีเซล B7 (น้ำมันดีเซลที่ผสมน้ำมันปาล์มบริสุทธิ์ 7% ในทุกลิตร) เริ่มตั้งแต่วันที่ 10 ต.ค.-31 ธ.ค. 2565 นั้น กระทรวงพลังงานได้ติดตามสถานการณ์ราคาน้ำมันดีเซลและพบว่า เป็นผลดีช่วยให้ต้นทุนราคาน้ำมันดีเซลปรับลดลงได้ 0.05-0.10 บาทต่อลิตร
ทั้งนี้เนื่องจากราคาน้ำมันปาล์มบริสุทธิ์ 100% หรือ B100 ปัจจุบันลดลงเหลือ 33.30 บาทต่อลิตร จากเดิมราคาสูงถึง38.80 บาทต่อลิตร เนื่องจากประเทศอินโดนีเซียเริ่มกลับมาส่งออกน้ำมันปาล์มดิบอีกครั้ง หลังจากก่อนหน้านี้ห้ามส่งออกเพราะเกิดปัญหาขาดแคลนในประเทศ
นอกจากนี้การใช้ B100 ผสมในน้ำมันดีเซลเพิ่มขึ้น ยังช่วยดูดซับผลผลิตของเกษตรกรที่ออกสู่ตลาดจำนวนมากก่อนหน้านี้และยังทำให้ราคาปาล์มปรับสูงขึ้นด้วย โดยปัจจุบันราคาทะลายปาล์มอยู่ที่ประมาณ 4-5 บาทต่อกิโลกรัม
ส่วนกระทรวงพลังงานจะกลับมาประกาศให้ใช้ดีเซล B10 และ B20 หรือน้ำมันดีเซลที่ผสมน้ำมันปาล์มบริสุทธิ์ 10-20% ในทุกลิตรได้เมื่อไหร่นั้น ต้องขึ้นอยู่กับการจัดทำแผนน้ำมันของประเทศ ที่กรมธุรกิจพลังงานกำลังจัดทำอยู่ เพื่อให้การใช้ B100 อยู่ในระดับที่สมดุลทุกฝ่าย
สำหรับราคาจำหน่ายปลีกดีเซลปัจจุบัน กระทรวงพลังงานยังกำหนดให้จำหน่ายไม่เกิน 34.94 บาทต่อลิตรต่อไปก่อนโดยเมื่อวันที่ 20 ต.ค. 2565 คณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง(กบน.) ได้ปรับลดการชดเชยราคาดีเซลลงเหลือ 2.95 บาทต่อลิตร จากเดิมชดเชยอยู่ 3.71 บาทต่อลิตร เนื่องจากราคาน้ำมันโลกปรับลดลง ส่วนสัปดาห์หน้า กบน.จะพิจารณาทบทวนราคาดีเซลเป็นรายสัปดาห์ต่อไป
ทางด้านค่าการตลาดดีเซล ซึ่งรวบรวมข้อมูลโดยสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) รายงานว่าค่าการตลาดดีเซลเฉลี่ยตั้งแต่วันที่ 1-21 ต.ค. 2565 เฉลี่ยอยู่ที่ 1.73 บาทต่อลิตร แต่ค่าการตลาดดีเซลของผู้ค้าน้ำมัน ณ วันที่ 21 ต.ค. 2565 อยู่ต่ำกว่า 1 บาทต่อลิตรอีกครั้ง โดยอยู่ที่ 0.91 บาทต่อลิตร และกลุ่มเบนซินอยู่ที่ 2-3 บาทต่อลิตร ขณะที่ภาครัฐขอความร่วมมือให้รักษาระดับค่าการตลาดไว้ไม่เกิน 1.40 บาทต่อลิตร
ด้านราคาน้ำมันตลาดโลก ณ วันที่ 21 ต.ค. 2565 เวลาประมาณ 15.30 น. ราคาน้ำมันตลาดโลกยังคงผันผวน โดยปรับลดลงเล็กน้อย โดยน้ำมันดิบดูไบอยู่ที่ระดับ 89.92 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล ลดลง 0.79 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล ส่วนน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) อยู่ที่ 83.75 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล ลดลง 0.76 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล และราคาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) อยู่ที่ 91.56 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ลงลง 0.82 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล
สำหรับสถานะกองทุนน้ำมันฯ ณ วันที่ 16 ต.ค. 2565 กองทุนฯมีสถานะติดลบ 125,690 ล้านบาท โดยนำไปชดเชยราคาLPG รวม 42,564 ล้านบาท และชดเชยราคาน้ำมันรวม 84,126 ล้านบาท
