บริษัทด้านพลังงาน ทยอยประกาศผลประกอบการปี 2561 โดย BCPG กำไรสุทธิ 2,219 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 25% คาดปี 2562 รายได้เติบโตต่อเนื่อง ขณะที่ SPRC ทุ่มงบลงทุนปีนี้ 256 ล้านดอลลาร์ฯ ซ่อมบำรุงและขยายกำลังกลั่น เป็น 175,000 บาร์เรลต่อวัน
นายทิโมธี อลัน พอตเตอร์ กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) (SPRC) เปิดเผยว่า SPRC วางแผนปิดซ่อมบำรุงครั้งใหญ่ ในช่วงเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม 2562 เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพของเครื่องจักรและอุปกรณ์ต่างๆ ให้กลั่นน้ำมันดิบได้หลากหลาย และยังมีโครงการเพิ่มกำลังการผลิตในหน่วยกลั่นน้ำมันดิบ (Crude Distillation Unit – CDU) และหน่วยผลิตปลายน้ำอื่นๆ จาก 165,000 บาร์เรลต่อวัน เป็น 175,000 บาร์เรลต่อวัน คาดว่าจะสร้างรายได้ทันทีหลังเสร็จสิ้นโครงการในเดือนธันวาคมปีนี้ โดยใช้งบประมาณสำหรับโครงการเพิ่มกำลังการผลิต การปิดซ่อมบำรุงใหญ่ และการปรับปรุงประสิทธิภาพต่างๆ ประมาณ 256 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
สำหรับผลการดำเนินงานไตรมาส 4/2561 ขาดทุนสุทธิ 118 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 3,881 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทได้รับผลกระทบหลักจากค่าการกลั่นที่ลดลง การขาดทุนจากสต็อกน้ำมัน และการขาดทุนจากการปรับลดมูลค่าสินค้าคงเหลือเป็นมูลค่าที่คาดว่าจะได้รับ ส่งผลให้ปี 2561 บริษัทมีกำไรสุทธิรวม 74 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 2,263 ล้านบาท เมื่อเทียบกับปี 2560 จำนวน 261 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 8,895 ล้านบาท
ด้านนายบัณฑิต สะเพียรชัย กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บีซีพีจี จำกัด (มหาชน) เผยผลการดำเนินงานปี 2561 มีกำไรสุทธิ 2,219 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 25% จากปี 2560 ซึ่งมาจากการบันทึกกำไรจากการจำหน่ายสินทรัพย์เข้ากองทุนโครงสร้างพื้นฐานในประเทศญี่ปุ่น รวมทั้งผลการดำเนินงานที่ดีในประเทศไทยและประเทศญี่ปุ่น และรับรู้ผลกำไรเต็มปีจากโครงการในประเทศฟิลิปปินส์และอินโดนีเซีย
สำหรับในปี 2562 บริษัทจะยังมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยมีโครงการที่จะเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ คือโครงการลมลิกอร์ที่ จ.นครศรีธรรมราช (กำลังการผลิต 10 เมกะวัตต์) ในไตรมาสที่ 2/2562 และโครงการมหาวิทยาลัยอัจฉริยะพลังงานสะอาดที่บริษัทได้รับคัดเลือกจากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ให้เป็นผู้ติดตั้งระบบไฟฟ้าแสงอาทิตย์บนพื้นที่หลังคา กำลังการผลิตรวม 12 เมกะวัตต์ ที่จะทยอยเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ตั้งแต่ปลายปีนี้
ขณะที่ นายกิจจา ศรีพัฑฒางกุระ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงผลการดำเนินงานปี 2561 มีกำไร 5,587 ล้านบาท ลดลง 7.5% จากปี 2560 พร้อมตั้งเป้าการลงทุนปี 2562 เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตเป็น 8,960 เมกะวัตต์หรือเทียบเท่า โดยได้เตรียมสำรองเงินลงทุนจำนวน 20,000 ล้านบาท พัฒนาและก่อสร้างโครงการใหม่ในปีนี้ เน้นโครงการโรงไฟฟ้าในประเทศ หลังจากแผนพัฒนากำลังการผลิตไฟฟ้าของประเทศ (พีดีพี 2018) จะเปิดให้มีการประมูลโรงไฟฟ้าในภาคตะวันตกทดแทนโรงไฟฟ้าเก่าที่หมดอายุสัญญา ซึ่งบริษัทพร้อมเข้าร่วมการประมูลอย่างแน่นอน
ส่วนการลงทุนต่างประเทศ ยังคงเดินหน้าทั้งโครงการโรงไฟฟ้าเชื้อเพลิงหลักและพลังงานทดแทน หรือโครงการที่เดินเครื่องเชิงพาณิชย์แล้ว