ลดภาษีดีเซลไม่ช่วยอะไร มอเตอร์ไซค์ 22 ล้านคันยังอ่วม เติมเบนซินแพง

744
- Advertisment-

แม้ว่าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 15 ก.พ. 2565 มีมติเห็นชอบมาตรการลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลในอัตรา 3 บาทต่อลิตร จากเดิมเก็บอยู่ที่ราคา 5.99 บาทต่อลิตร โดยมีผล 3 เดือน นับตั้งแต่ร่างกฎกระทรวงกำหนดพิกัดอัตราภาษีสรรพสามิตมีผลบังคับใช้ไปจนถึงวันที่ 20 พ.ค. 2565 และหลังจากลดภาษีครบ 3 เดือนก็จะกลับมาเก็บอัตรา 5.99 บาทต่อลิตรตามเดิม โดยการลดภาษีดีเซลในครั้งนี้เป็นการช่วยเหลือประชาชนด้วยการลดผ่านราคาขายปลีกดีเซลโดยตรง เพื่อตรึงราคาดีเซลให้ไม่เกิน 30 บาทต่อลิตร

อย่างไรก็ตาม มาตรการตรึงราคาดังกล่าวนั้น ทำให้โครงสร้างราคาน้ำมันบิดเบือน ผู้ค้าน้ำมันบีบค่าการตลาดผู้ใช้เบนซินเพิ่ม ชดเชยค่าการตลาดดีเซลที่ลดต่ำลง หลังราคาน้ำมันโลกพุ่งไม่หยุด สะเทือนกลุ่มวินมอเตอร์ไซต์รับจ้างต้องจ่ายค่าน้ำมันแพง บางรายต้องปรับขึ้นค่าโดยสารจนกระทบประชาชน นักวิชาการแนะเปลี่ยนวิธีเป็นช่วยเหลือผู้ใช้ดีเซลเฉพาะกลุ่มแทน ส่วนที่เหลือจ่ายตามจริง ลดภาระกองทุนน้ำมัน  

- Advertisment -

ผู้สื่อข่าวศูนย์ข่าวพลังงาน (Energy News Center-ENC) รายงานว่า จากรายงานค่าการตลาดน้ำมัน ณ วันที่ 17 ก.พ. 2565 ของสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน(สนพ.) พบว่า ผู้ค้าน้ำมันเรียกเก็บค่าการตลาดจากกลุ่มเบนซินสูงขึ้น มาอยู่ที่ประมาณ 3-4 บาทต่อลิตร เพื่อชดเชยค่าการตลาดกลุ่มน้ำมันดีเซลที่ลดลงเหลือแค่ 0.97 บาทต่อลิตร จากปกติค่าการตลาดที่เหมาะสมจะอยู่ที่ระดับ 1.50-2 บาทต่อลิตร เนื่องจากภาครัฐกำหนดตรึงราคาดีเซลไม่ให้เกิน 30 บาทต่อลิตร ท่ามกลางสถานการณ์ราคาน้ำมันโลกที่ปรับสูงขึ้นต่อเนื่อง เป็นเหตุให้ค่าการตลาดดีเซลลดต่ำ ทำให้ผู้ค้าน้ำมันต้องหันไปเรียกเก็บค่าการตลาดจากผู้ใช้น้ำมันกลุ่มเบนซินเพิ่มขึ้นแทน

ทั้งนี้ค่าการตลาดเบนซินที่สูงขึ้นกลายเป็นต้นทุนราคาน้ำมันที่ผู้ใช้น้ำมันกลุ่มเบนซินต้องแบกรับภาระเพิ่มขึ้น โดยราคาน้ำมันกลุ่มเบนซิน ณ วันที่ 17 ก.พ. 2565 เป็นดังนี้ น้ำมันเบนซิน อยู่ที่ 43.56 บาทต่อลิตร น้ำมันแก๊สโซฮอล์95 อยู่ที่ 36.15 บาทต่อลิตร น้ำมันแก๊สโซฮอล์91 อยู่ที่ 35.88 บาทต่อลิตร,น้ำมันแก๊สโซฮอล์ E20 อยู่ที่ 35.04 บาทต่อลิตร และน้ำมันแก๊สโซฮอล์ E85 อยู่ที่ 28.34 บาทต่อลิตร ส่วนกลุ่มดีเซล ราคาอยู่ที่ 29.94 บาทต่อลิตร

ที่มา: สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) กระทรวงพลังงาน

และเมื่อพิจารณากลุ่มผู้ใช้เบนซินที่ได้รับผลกระทบจากโครงสร้างราคาน้ำมันที่ถูกบิดเบือนจากการตรึงราคาดีเซลดังกล่าวจะพบว่า ตัวเลขจากกรมขนส่งทางบก รายงานข้อมูลสถิติปี 2564 กลุ่มผู้ใช้รถที่ใช้เบนซินมีทั้งสิ้น 28.9ล้านคัน โดยส่วนใหญ่เป็นรถมอเตอร์ไซค์ส่วนบุคคล 21.7ล้านคัน รองลงมาคือ รถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน7ที่นั่ง หรือที่เรียกว่ารถบ้าน 6.7ล้านคัน และกลุ่มวินมอเตอร์ไซค์รับจ้าง 1.56 แสนคัน

ส่วนกลุ่มผู้ใช้รถดีเซลมีจำนวนทั้งสิ้น 12 ล้านคัน โดยกลุ่มรถยนต์นั่งส่วนบุคคลที่นั่งเกิน 7 คน จำนวน 3.2 ล้านคัน ที่นั่งเกิน 7 คนจำนวน 3.76 แสนคัน
รถบรรทุกส่วนบุคคล มีทั้งสิ้น 6.6 ล้านคัน รถแทรกเตอร์ 6 แสนคัน รถใช้ในงานเกษตรกรรม 1 แสนคัน

นักวิชาการด้านพลังงาน เห็นว่า การตรึงราคาดีเซลไม่ให้เกิน 30 บาทต่อลิตร ส่งผลให้เกิดการบิดเบือนโครงสร้างราคาน้ำมันในประเทศ ทั้งนี้ภาครัฐควรใช้มาตรการตรึงราคาดีเซลเฉพาะกลุ่ม เช่น กลุ่มรถโดยสารสาธารณะ กลุ่มรถบรรทุก ควรให้บัตรพิเศษช่วยเหลือราคาดีเซล ส่วนกลุ่มผู้ใช้รถดีเซลประเภทอื่น ให้จ่ายตามราคาน้ำมันจริง เป็นต้น ซึ่งจะทำให้การช่วยเหลือได้ตรงจุดและไม่ทำให้โครงสร้างราคาน้ำมันบิดเบือน อีกทั้งกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงไม่ต้องแบกรับภาระมากเกินไปด้วย   

สำหรับสถานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ณ วันที่ 13 ก.พ. 2565 มีสถานะติดลบ 18,151 ล้านบาท แบ่งเป็นบัญชีน้ำมันมีเงิน 7,610 ล้านบาท แต่บัญชี LPG ติดลบ 25,761 ล้านบาท โดยเงินไหลออกจากกองทุนฯ ประมาณ 7,000 ล้านบาทต่อเดือน แบ่งเป็นเงินไหลออกจากมาตรการตรึงราคา LPG 1,900 ล้านบาทต่อเดือน และเงินไหลออกจากการตรึงราคาน้ำมันดีเซล ประมาณ 5,000 ล้านบาทต่อเดือน

สำหรับสถานการณ์ราคาน้ำมันโลก ณ วันที่ 17 ก.พ. 2565 ทางหน่วยวิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน บริษัท ไทยออยล์ จำกัด(มหาชน) รายงานราคาน้ำมันดิบโลกล่าสุด ณ วันที่ 16 ก.พ. 2565 ว่า ราคาน้ำมันดิบดูไบ อยู่ที่ 92.72 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล ขณะที่ราคาน้ำมันดิบเวสเท็กซัส อยู่ที่ 93.66 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล และราคาน้ำมันดิบเบรนท์ อยู่ที่ 94.81 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล 

Advertisment