เปิดฐานะกองทุนน้ำมันฯ เหลือเงิน 1.8 หมื่นล้านใช้รับมือการตรึงราคาก๊าซหุงต้มและชดเชยน้ำมันที่มีส่วนผสมเชื้อเพลิงชีวภาพได้อีก 10 เดือนก็จะ หมดกระเป๋า สกนช. เตรียมชงกู้เติมอีก 2 หมื่นล้าน สำหรับอุ้มราคาก๊าซหุงต้ม น้ำมันที่มีส่วนผสมเชื้อเพลิงชีวภาพ และกรณีที่ดีเซล ราคาทะลุเกินเพดาน 30 บาทต่อลิตร
แหล่งข่าวจากกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า สถานะของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ณ วันที่ 27 มิ.ย. 2564 เหลือเงินสุทธิ 17,972 ล้านบาท แบ่งเป็นเงินในบัญชีน้ำมัน 31,559 ล้านบาท และบัญชี LPG ติดลบ 13,587 ล้านบาท โดยกองทุนมีเงินไหลออกเมื่อหักลบกับรายได้ที่เข้ามา ประมาณเดือนละ 1,700 ล้านบาท จากการเข้าไปตรึงราคาก๊าซหุงต้มถังขนาด 15 กก.ให้อยู่ที่ราคา 318 บาทซึ่งเป็นราคาที่ต่ำกว่าต้นทุนตลาดโลก และการเข้าไปชดเชยราคาน้ำมันที่มีส่วนผสมของเชื้อเพลิงชีวภาพ ประกอบด้วย น้ำมันแก๊สโซฮอล E20 ชดเชยอยู่ที่ลิตรละ 2.28 บาท และ E85 ลิตรละ 7.13 บาท ส่วน ดีเซล (B10) ชดเชยอยู่ที่ลิตร 2.50 บาท และ ดีเซล B20 ชดเชยอยู่ที่ ลิตรละ 4.16 บาท ต่อลิตร โดยหากรายจ่ายยังมีมากกว่ารายรับเหมือนเช่นปัจจุบัน กองทุนน้ำมันจะใช้ชดเชยทั้งราคาก๊าซหุงต้มและน้ำมันชีวภาพไปได้อีก 10 เดือนเท่านั้น
อย่างไรก็ตามสถานการณ์ราคาน้ำมันดิบตลาดโลก ยังมีความผันผวน โดย ราคาทะยานขึ้นแตะ 80 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล ซึ่งหากราคาปรับสูงขึ้นไปอีกจนกระทบต่อราคาขายปลีกดีเซลที่ปั๊ม ทะลุเกินเพดาน 30 บาทต่อลิตร กระทรวงพลังงานก็จะใช้กลไกของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเข้าไปพยุงราคา ที่อาจจะทำให้ สำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง หรือ สกนช.ต้องเสนอเรื่องเพื่อขออนุมัติกู้เงินในวงเงินไม่เกิน 20,000 ล้านบาท เร็วขึ้นเนื่องจากเงินที่มีเหลืออยู่จะมีไม่เพียงพอ
ทั้งนี้ในแผนรองรับวิกฤตการณ์ด้านน้ำมันเชื้อเพลิง นั้น กพช.ได้มีมติเห็นชอบตั้งแต่วันที่ 19 มี.ค.2563 และ คณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 20 ต.ค.2563 ก็มีมติเห็นชอบตาม กพช. ที่สามารถให้ สกนช.นำเงินจากกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง มาชดเชยราคาน้ำมัน เพื่อรักษาเสถียรภาพราคาในช่วงระยะเวลาสั้นๆได้ เมื่อดีเซลทะลุเกิน 30 บาทต่อลิตร หรือกรณีที่ภายใน 1 สัปดาห์ ราคาขายปลีกปรับขึ้นเกิน 1 บาทต่อลิตร
แหล่งข่าว กล่าวด้วยว่า ในการประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) เมื่อวันที่ 29 มิ.ย. 2564 ที่ประชุมได้ติดตามถึงสถานการณ์ราคาน้ำมันในช่วงที่ผ่านมา และได้รับรายงานข้อมูลคาดการณ์ทิศทางราคาน้ำมันจาก สกนช. ซึ่งก่อนหน้านี้ได้มีการเชิญทีมวิเคราะห์สถานการณ์น้ำมันกลุ่ม ปตท. หรือ PRISM มาให้ข้อมูลพบว่า ยังคงประเมินว่า ราคาน้ำมันดิบปี 2564 นี้ จะยังไม่สูงเกิน 80 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล แม้ว่าช่วงนี้ราคาน้ำมันจะผันผวนปรับขึ้นตามสถานการณ์ต่างๆในตลาดโลก อย่างไรก็ตามที่ประชุม ได้กำชับให้สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน ( สนพ.) และ สกนช.ติดตามสถานการณ์ราคาน้ำมันอย่างใกล้ชิดต่อไป