แห่จองคิวยื่นซองโรงไฟฟ้าชุมชนแล้วกว่า 250 ราย

920
- Advertisment-

การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค(PEA) สรุปยอดผู้สนใจเข้าร่วมโครงการโรงไฟฟ้าชุมชนฯ รวม 268 ราย จองคิวเข้ายื่นซองแล้ว 250 ราย โดย ยืนยันกระบวนการพิจารณาคัดเลือกโปร่งใส มีกรรมการ 9 หน่วยงานร่วมพิจารณาด้านเทคนิค ตามหลักเกณฑ์ 10 ข้อ พร้อมเปิดให้ยื่นเอกสารเพิ่มและอุทธรณ์ได้ กำหนดประกาศชื่อผู้ผ่านเข้าร่วมโครงการ 15 ก.ค. 2564

วันแรก​ ( 27​ เม.ย.64​ )​ ที่ PEA เปิดให้ผู้สนใจยื่นซองเอกสารคำเสนอขายไฟฟ้า โครงการโรงไฟฟ้าชุมชนเพื่อเศรษฐกิจฐานราก​ (โครงการนำร่อง) พ.ศ. 2564 ท่ามกลางสภาพอากาศชุ่มฉ่ำฝนตกหนักเกือบตลอดทั้งวัน​และความเข้มงวดมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ตัวเลขผู้ติดเชื้อยังทะลุเกิน​ 2​พันคนต่อวัน แต่ผู้ที่สนใจเข้าร่วมโครงการฯ ยังเดินทางมายื่นเอกสารตามคิวที่ได้จองผ่านระบบออนไลน์ไว้อย่างคึกคัก โดย PEA เปิดให้มายื่นซองได้ตั้งแต่เวลา 8.30-16.30 น. ไปจนถึงวันที่​ 30 เม.ย. 2564 ตามคิวที่จองไว้ผ่านระบบออนไลน์ ที่จะเปิดรับเพียงวันละ 84 คิวเท่านั้น โดยผู้ที่เข้ายื่นซองประมูลได้จะต้องเป็นบริษัทนิติบุคคลเท่านั้น

นายเสกสรร เสริมพงศ์ รองผู้ว่าการวางแผนและพัฒนาระบบไฟฟ้า การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค​ (PEA) เปิดเผยว่า​ โครงการโรงไฟฟ้าชุมชนฯครั้งนี้ มีผู้วางเงินประกันการยื่นคำเสนอขอขายไฟฟ้า ( Bid Bond ) จำนวน 500 บาทต่อกิโลวัตต์ของปริมาณพลังไฟฟ้าเสนอขาย​รวมทั้งสิ้น 268 ราย และจองคิวเข้ายื่นซองประมาณ 250 ราย แต่ยังไม่ทราบว่าจะมายื่นซองประมูลตามจำนวนที่วางหลักประกันไว้ทั้งหมดหรือไม่

- Advertisment -

โดยวันแรกมีผู้จองคิวมารอยื่นเอกสารตั้งแต่เวลา 08.00 น. ก่อนจะเปิดให้ยื่นจริงเวลา 8.30 น. มีผู้มายื่นซองทั้งหมดประมาณ 50 ราย และไม่มายื่นอีกประมาณ 4-5 ราย ซึ่งผู้ไม่มายื่นเอกสารตามคิวที่จองไว้จะต้องไปลงทะเบียนจองในระบบออนไลน์ใหม่ ซึ่งปัจจุบันเหลือคิวให้จองได้เพียงวันพรุ่งนี้ 28 เม.ย. 2564 ประมาณ 71 คิวเท่านั้น เพราะมีผู้จองคิววันที่ 28 เม.ย.ไปแล้วกว่า 10 คิว ส่วนคิววันพฤหัสบดีที่ 29 เม.ย.และศุกร์ที่ 30 เม.ย. 2564 มีการจองคิวเต็มแล้ว

“PEA ได้จัดเจ้าหน้าที่ไว้รองรับผู้มายื่นซองทั้งหมดประมาณ 10 คน รองรับผู้มาสมัคร 12 รายต่อชั่วโมง การสมัครก็ใช้เวลาเพียงรายละ 5 นาทีเท่านั้น และสถานที่ได้จัดให้มีการเว้นระยะห่างเพื่อป้องกันโควิด-19 มีที่นั่งรอ​กว้างขวาง และโล่ง เพราะได้จัดคิวให้เข้ายื่นซองเอกสารไม่เกินวันละ 84 ราย ซึ่งเป็นไปตามมาตรการความปลอดภัยจากโควิด-19 ตามที่ กทม. กำหนดหนดไว้”

นายเสกสรร กล่าวว่า การพิจารณาผู้เข้าร่วมโครงการโรงไฟฟ้าชุมชนนี้ มั่นใจได้ว่ามีความโปร่งใสแน่นอน เนื่องจากคณะกรรมการที่พิจารณาด้านเทคนิคมาจาก 9 หน่วยงาน ทั้งตัวแทน PEA, การไฟฟ้านครหลวง​(กฟน.) ,สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน​ (สนพ.), สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน​ (สำนักงาน​ กกพ.), กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน​ (พพ.) รวมถึงเจ้าหน้าที่จากกรมโยธาธิการและผังเมือง และตัวแทนกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นต้น นอกจากนี้ยังเปิดให้สามารถยื่นเอกสารเพิ่มเติมได้และสามารถอุทธรณ์ได้ด้วย

ส่วนหลักเกณฑ์การพิจารณาด้านเทคนิค จะพิจารณาใน 10 ข้อ ได้แก่ 1.การจดทะเบียนอย่างถูกต้องของบริษัทที่ยื่นประมูล มูลค่าจดทะเบียนต้องไม่ต่ำกว่า 2 ล้านบาทต่อเมกะวัตต์ติดตั้ง 2.บริษัทที่ยื่นประมูลต้องเป็นบริษัทเดียวกับที่ยื่นขอเชื่อมโยงระบบสายส่งไฟฟ้าอย่างถูกต้อง 3.วิสาหกิจที่ร่วมกับบริษัทนั้นๆ ต้องจดทะเบียนอย่างต้อง 4.วิสาหกิจ ต้องมีจำนวนสมาชิกครบ 200 ครัวเรือน และมีข้อตกลงกับบริษัทที่ร่วมประมูลอย่างไร มีการทำเกษตรพันธสัญญา (contract farming) หรือไม่
5.การให้ผลตอบแทนกับชุมชนรอบโรงไฟฟ้า 6.ความถูกต้องของโครงสร้างบริษัท เช่น เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ 90% ของบริษัท และให้หุ้นบุริมสิทธิ 10% กับวิสาหกิจชุมชนหรือไม่ และวิสาหกิจชุมชนยอมรับหรือไม่ 7.ความพร้อมด้านที่ดิน ทั้งการได้มาของที่ดิน การเชื่อมโยงระบบสายส่งไฟฟ้า 8. เงินลงทุน มีสถาบันการเงินสนับสนุนไม่น้อยกว่า 50% ของมูลค่าโครงการหรือไม่ 9. ความพร้อมด้านเทคโนโลยีโรงไฟฟ้า เชื้อเพลิงชีวมวลและก๊าซชีวภาพมีความสอดคล้องกับโรงไฟฟ้าหรือไม่ และการออกแบบโรงไฟฟ้าเป็นอย่างไร และ 10. ความพร้อมด้านเชื้อเพลิง สอดคล้องกับกำลังการผลิตไฟฟ้าหรือไม่ และถ้าเชื้อเพลิงไม่พอมีแผนสำรองอย่างไร

สำหรับไทม์ไลน์กระบวนการยื่นประมูลโครงการโรงไฟฟ้าชุมชนในครั้งนี้ จะปิดรับยื่นซองเอกสารด้านเทคนิคและด้านราคาในวันที่ 30 เม.ย. 2564 จากนี้ PEA จะตรวจสอบเอกสารและแจ้งสิทธิในรายที่เอกสารไม่ครบถ้วน ถูกต้องสมบูรณ์ ให้มายื่นเอกสารเพิ่มเติม โดยในวันที่ 7 พ.ค. 2564 จะแจ้งผลทาง email ให้กับผู้ยื่นรายที่เอกสารไม่ครบถ้วนทราบ และให้ผู้ยื่นนำเอกสารเพิ่มเติมใส่ซองปิดผนึก นำมายื่นที่อาคารคลับเฮ้าส์ PEA สำนักงานใหญ่ ในวันที่ 13,14, 17 พ.ค. 2564 เวลา 8.30 – 16.30 น.

โดยผู้ยื่นจะเข้าไปจองวันเวลาที่จะเข้ามายื่นเอกสารเพิ่มเติมได้ผ่านทางระบบ PPIM (https://ppim.pea.co.th) เช่นเดิม โดยระบบจะเปิดให้ผู้ยื่นเข้าเลือกวันเวลาที่จะมายื่นเอกสารเพิ่มเติม ในวันที่ 11 พ.ค. 2564 เวลา 8.30 น. จนถึง วันที่ 12 พ.ค. 2564 เวลา 23.59 น. และจะประกาศรายชื่อผู้ผ่านการพิจารณาคุณสมบัติด้านเทคนิค ในวันที่ 21 พ.ค. 2564 ผ่านทางเว็ปไซต์ PPIM และมีหนังสือแจ้งผลการพิจารณา พร้อมเหตุผล ให้กับผู้ที่ไม่ผ่านการพิจารณาทางด้านเทคนิคทราบต่อไป

ทั้งนี้ หากผู้ยื่นต้องการอุทธรณ์ผลการพิจารณา สามารถยื่นอุทธรณ์ต่อ กกพ. ได้ภายใน 15 วัน ( ภายในวันที่ 4 มิ.ย. 2564) โดย สำนักงาน​ กกพ. จะแจ้งผลการอุทธรณ์ภายในวันที่ 7 ก.ค. 2564 และ จะประกาศรายชื่อผู้ผ่านการคัดเลือกเข้าร่วมโครงการ ในวันที่ 15 ก.ค. 2564 และลงนามสัญญาซื้อขายไฟฟ้าภายใน 120 วัน นับจากวันประกาศรายชื่อผู้ผ่านการคัดเลือกเข้าร่วมโครงการ (ภายในวันที่ 12 พ.ค. 2564) ต่อไป

ผู้สื่อข่าวศูนย์ข่าวพลังงาน​(Energy News Center-ENC) รายงานว่า PEA จะประกาศรายชื่อบริษัทที่ยื่นเอกสารทั้งหมดภายหลังวันที่ 30 เม.ย. 2564

สำหรับโครงการโรงไฟฟ้าชุมชนฯ จะเปิดรับซื้อไฟฟ้ารวม 150 เมกะวัตต์ แบ่งเป็นเชื้อเพลิงชีวมวล 75 เมกะวัตต์ เสนอขายโครงการละไม่เกิน 6 เมกะวัตต์ และเชื้อเพลิงก๊าซชีวภาพ(พืชพลังงาน ผสมน้ำเสีย/ของเสีย น้อยกว่าหรือเท่ากับ 25%) 75 เมกะวัตต์ เสนอขายโครงการละไม่เกิน 3 เมกะวัตต์

อัตรารับซื้อไฟฟ้า แบ่งเป็น 1. ชีวมวล กำลังผลิตติดตั้งไม่เกิน 3 เมกะวัตต์ คิดอัตรา Feed-in Tariff (FiT) ที่ 4.8482 บาทต่อหน่วย และกำลังการผลิตติดตั้งมากกว่า 3 เมกะวัตต์ FiT ที่ 4.2636 บาทต่อหน่วย 2. ก๊าซชีวภาพ (พืชพลังงาน) มี FiT ที่ 4.7269 บาทต่อหน่วย โดยทั้งหมดมีระยะเวลาสนับสนุน 20 ปี และมี FiT Premium สำหรับพื้นที่พิเศษ อีก 0.50 บาทต่อหน่วย

Advertisment