คณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 14 ก.ค.2563 มีมติรับทราบสรุปมติการประชุม ตามที่คณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ (กนป.) เสนอ โดยในส่วนการใช้น้ำมันปาล์มดิบเพื่อผลิตไฟฟ้านั้นให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เร่งรัดการจัดซื้อน้ำมันปาล์มดิบส่วนที่เหลือ จำนวน 37,550 ตัน ให้แล้วเสร็จโดยเร็ว และ ให้พิจารณาจัดซื้อน้ำมันปาล์มดิบ ส่วนที่สำรองอีก 100,000 ตัน เพื่อดูดซับสต็อกส่วนเกิน และให้สำนักงบประมาณพิจารณางบสำหรับการชดเชยส่วนต่างของต้นทุนที่เพิ่มขึ้น
ผู้สื่อข่าวศูนย์ข่าวพลังงาน (Energy News Center-ENC ) รายงานว่า คณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 14 ก.ค.2563 มีมติรับทราบสรุปมติการประชุม ตามที่คณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ (กนป.) เสนอ โดยในส่วนการใช้น้ำมันปาล์มดิบเพื่อผลิตไฟฟ้านั้นให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เร่งรัดการจัดซื้อน้ำมันปาล์มดิบส่วนที่เหลือ จำนวน 37,550 ตัน ให้แล้วเสร็จโดยเร็ว และ ให้พิจารณาจัดซื้อน้ำมันปาล์มดิบ ส่วนที่สำรองอีก 100,000 ตัน เพื่อผลิตเป็นกระแสไฟฟ้าและดูดซับสต็อกส่วนเกินตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2562 [ หากยังไม่สามารถดูดซับระดับสต็อกส่วนเกิน (ระดับที่เหมาะสม) ได้ หรือสถานการณ์ราคาปาล์มน้ำมันยังไม่ดีขึ้น ให้ กฟผ. จัดซื้อน้ำมันปาล์มดิบสำรองอีก จำนวน 100,000 ตัน เพื่อนำไปใช้เป็นเชื้อเพลิงในการผลิตกระแสไฟฟ้าที่โรงไฟฟ้าบางปะกง]
ทั้งนี้ ให้กระทรวงพลังงานพิจารณาความคุ้มค่าในการดำเนินการและภาระงบประมาณที่จะเพิ่มขึ้น โดยหารือร่วมกับสำนักงบประมาณ เพื่อหาแนวทางต่อไป
สำหรับการชดเชยส่วนต่างจากการรับซื้อน้ำมันปาล์มดิบของ กฟผ. นั้น ได้มอบหมายให้ กระทรวงพลังงานหารือร่วมกับ สำนักงบประมาณ เพื่อให้การดำเนินการชดเชยส่วนต่างจากการรับซื้อน้ำมันปาล์มดิบของ กฟผ. กรอบวงเงิน 2,029 ล้านบาท มีความรวดเร็ว ถูกต้อง เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย ระเบียบ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง
ส่วน การส่งเสริมการใช้ไบโอดีเซล เห็นชอบให้ กระทรวงพลังงาน เร่งดำเนินการส่งเสริมการใช้น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว บี 10 ให้เป็นไป ตามเป้าหมายที่กำหนด รวมทั้งเร่งรัดในการรณรงค์เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในการใช้น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว บี 10 ให้กับผู้บริโภค ผู้ประกอบการค่ายรถยนต์ และสถานีบริการเพื่อให้ปริมาณความต้องการใช้น้ำมันปาล์มดิบสามารถรองรับปริมาณผลผลิตปาล์มน้ำมันที่เพิ่มขึ้นได้
ในขณะที่โครงการติดตั้งเครื่องมือวัดปริมาณน้ำมันปาล์ม เพื่อบริหารจัดการและควบคุมสต็อกน้ำมันปาล์มนั้น ให้ สำนักงบประมาณ พิจารณาจัดสรรงบประมาณ จำนวน 372.516 ล้านบาท ให้กรมการค้าภายใน เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินโครงการติดตั้งเครื่องมือวัดปริมาณ น้ำมันปาล์ม เพื่อบริหารจัดการและควบคุมสต็อกน้ำมันปาล์ม ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2563 ( ที่อนุมัติงบประมาณ จำนวน 372.516 ล้านบาท เพื่อดำเนินโครงการติดตั้งเครื่องมือวัดปริมาณน้ำมันปาล์ม เพื่อบริหารจัดการและควบคุมสต็อกน้ำมันปาล์มและให้กระทรวงพาณิชย์เร่งรัดการดำเนินโครงการดังกล่าวให้แล้วเสร็จโดยเร็ว