สุ่มตรวจลักลอบนำเข้าน้ำมันปาล์มดิบ ช่วงเม.ย.นี้ หวั่นซ้ำเติมให้ราคาปาล์มร่วงต่ำลงอีก

807
- Advertisment-

รัฐมนตรีพลังงานเตรียมลงพื้นที่สุ่มตรวจการลักลอบนำเข้าน้ำมันปาล์มดิบ (CPO) จากต่างประเทศซ้ำเติมราคาผลผลิตปาล์มให้ตกต่ำลงอีก จากที่เคยขึ้นไปถึงประมาณ 8 บาทต่อกิโลกรัม ช่วงเดือน ก.พ.2563 ที่ผ่านมา เหลือเฉลี่ยอยู่ที่ 3.10-3.85 บาทต่อกิโลกรัม ( ราคา ณ วันที่ 25 มี.ค.2563 ) โดยข้อมูลจากกรมธุรกิจพลังงานระบุยอดใช้ ดีเซลB10 (น้ำมันดีเซลที่ผสมน้ำมันปาล์มบริสุทธิ์ 10% ในทุกลิตร) เดือนมี.ค.2563 เฉลี่ย 10.5 ล้านลิตรต่อวัน ต่ำกว่าเป้าหมายการใช้ที่ตั้งไว้ที่ 20 ล้านลิตรต่อวัน โดย มีปัจจัยสำคัญจากการลดการเดินทาง ทำงานที่บ้าน เพราะสถานการณ์การแพร่ระบาด COVID-19

นายสนธิรัตน์​ สนธิจิรวงศ์​ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า กระทรวงพลังงานเตรียมลงพื้นที่ตรวจสอบและป้องกันการลักลอบนำเข้าน้ำมันปาล์มดิบ(CPO) จากต่างประเทศ ในเดือนเม.ย. 2563 นี้  โดยอาจมีการฉวยโอกาสในสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 ดำเนินการซึ่งจะส่งผลกระทบต่อราคาผลผลิตปาล์มน้ำมัน ให้ลดต่ำลงไปอีก

โดยราคาผลผลิตปาล์มทะลายเริ่มปรับลดลงจากที่เคยสูงสุดถึง 8 บาทต่อกิโลกรัม ช่วงเดือน ก.พ.2563 ที่ผ่านมา เหลือเฉลี่ยอยู่ที่ 3.10-3.85 บาทต่อกิโลกรัม(ข้อมูล ณ วันที่ 25 มี.ค. 2563 )

- Advertisment -

ด้านแหล่งข่าวกรมธุรกิจพลังงาน กล่าวว่า การสุ่มตรวจหาน้ำมันปาล์มดิบลักลอบนำเข้า จะใช้วิธีการเปรียบเทียบกับน้ำมันปาล์มดิบที่มีการเก็บตัวอย่างมาจากหลายประเทศ โดยจะยังไม่ใช่การตรวจสอบจากการติดตั้งซอฟต์แวร์Automatic Tank Gauge (ATG) ที่ถังน้ำมันปาล์มบริสุทธิ์ 100% (B100) ของผู้ประกอบการทั้งหมดที่มี 76 ถังทั่วประเทศ ตามนโยบายรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน  เนื่องจากการของบ 60 ล้านบาท จากกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง เพื่อนำมาดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างผู้ติดตั้งอุปกรณ์ ATG ยังไม่ได้รับการอนุมัติ และกรมธุรกิจพลังงานคาดว่าจะไม่สามารถติดตั้งเสร็จในเดือนต.ค. 2563 ตามกำหนดเดิม

สำหรับ ชอฟต์แวร์ ATG จะนำมาช่วยในการตรวจสอบปริมาณ B100 ของผู้ประกอบการทุกรายว่ามีปริมาณเท่าไหร่ สอดคล้องกับปริมาณน้ำมันปาล์มดิบ CPO ที่กระทรวงพาณิชย์ติดตั้งซอฟต์แวร์ตรวจสอบปริมาณเอาไว้หรือไม่ หากไม่สอดคล้องกัน อาจสันนิษฐานได้ว่าน่าจะเกิดการลักลอบนำเข้า

แหล่งข่าว กล่าวถึงสาเหตุของราคาผลผลิตปาล์มน้ำมันในเดือน มี.ค.ที่ตกต่ำลงมากจากเดือน ก.พ. 2563 ที่ผ่านมา ว่า เกิดจากยอดการใช้ดีเซลB10 ที่ไม่เป็นไปตามเป้า แม้ว่ารัฐจะประกาศให้ดีเซล B10 เป็นน้ำมันดีเซลพื้นฐานของประเทศตั้งแต่ ม.ค. 2563  และกำหนดให้ทุกปั๊มต้องมีจำหน่ายตั้งแต่ 1 มี.ค. 2563 เป็นต้นไปแล้วก็ตาม  โดยนับตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค.-22 มี.ค. 2563 หรือ 22 วัน มียอดใช้ B10 เฉลี่ย 10.5 ล้านลิตรต่อวัน ต่ำกว่าเป้าในเดือนมี.ค.ที่ตั้งไว้เฉลี่ย 20 ล้านลิตรต่อวัน  เนื่องจากประชาชนลดการเดินทางลงจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 ซึ่งทำให้ B100 ที่เป็นส่วนผสมสำคัญ ยังคงมีเหลือในสต็อกอยู่มาก

ทั้งนี้หากในเดือนเม.ย.นี้ มีการฉวยโอกาสลักลอบนำเข้าน้ำมันปาล์มดิบจากต่างประเทศ เข้ามาอีก เนื่องจากราคาขายในประเทศยังมีส่วนต่างที่จูงใจ โดยอาศัยสถานการณ์การแพร่ระบาดของ  COVID-19 ที่เจ้าหน้าที่รัฐและสังคมอาจจะละเลยความสนใจ  ก็จะยิ่งทำให้ราคาผลผลิตปาล์มน้ำมันกลับมาตกต่ำอยู่ที่ระดับ 2-3 บาทต่อกก.ได้อีก

สำหรับราคา CPO ปัจจุบันอยู่ที่ 23-23.5 บาทต่อกิโลกรัม ลดลงจากเดือนก.พ. ที่มีราคา 38 บาทต่อกิโลกรัม และB100 ราคาอยู่ที่ 33.52 บาทต่อลิตร ลดลงจากเดือน ก.พ. ที่มีราคา 39.74 บาทต่อลิตร

Advertisment