กรมธุรกิจพลังงาน เผยยอดการใช้น้ำมันของประเทศ 4 เดือนแรกปี 2562 (ม.ค.-เม.ย.) โต 3.4% แตะ 1.01 ล้านบาร์เรลต่อวัน ขยายตัวตามภาวะเศรษฐกิจและการเดินทางช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมา ขณะยอดใช้น้ำมันเฉพาะเดือนเม.ย. 2562 รวมอยู่ที่160.2 ล้านลิตร เพิ่มขึ้น 3.4 % จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เช่นเดียวกัน
ข้อมูลจากกรมธุรกิจพลังงาน(ธพ.) ระบุถึงสถิติความต้องการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงในประเทศช่วง 4 เดือนแรกของปี 2562 (ม.ค.-เม.ย.2562) พบว่า การใช้น้ำมันสำเร็จรูปมีปริมาณ 19,457 ล้านลิตร เฉลี่ยวันละ 162.1 ล้านลิตร หรือคิดเป็น 1,019,599 บาร์เรลต่อวัน เพิ่มขึ้น 3.4 ล้านลิตร หรือคิดเป็น 2.2% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นผลมาจากยอดการใช้ที่เพิ่มขึ้นทั้งในกลุ่มน้ำมันเบนซิน เพิ่มขึ้น 3.4%, ก๊าซปิโตรเลียมเหลว(LPG) เพิ่มขึ้น2.4% ,ดีเซล เพิ่มขึ้น 2.2% และน้ำมันอากาศยาน เพิ่มขึ้น 1.3% ขณะที่น้ำมันเตาลดลง 2.8% และน้ำมันก๊าด ลดลง 2% ซึ่งเป็นไปตามการขยายตัวทางเศรษฐกิจและการเดินทางในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมา
ส่วนปริมาณการนำเข้าน้ำมันดิบอยู่ที่ 18,716 ล้านลิตร เฉลี่ยวันละ 156 ล้านลิตร หรือ 981,231 บาร์เรลต่อวัน ซึ่งเพิ่มขึ้น 3 ล้านลิตร หรือเพิ่มขึ้น 1.9% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน คิดเป็นมูลค่าการนำเข้าอยู่ที่ 248,450 ล้านบาท ลดลง 11,715 ล้านบาท หรือ 4.5% เนื่องจากราคาน้ำมันที่ปรับลดลง ประกอบกับเงินบาทแข็งค่าจากช่วงเดียวกันของปีก่อน
ขณะที่ความต้องการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงในประเทศเดือนเม.ย. 2562 พบว่า มีปริมาณรวม 4,806 ล้านลิตร เฉลี่ยวันละ 160.2 ล้านลิตรต่อวัน หรือ 1,007,567 บาร์เรลต่อวัน โดยกลุ่มน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว (น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว, น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว B 20, น้ำมันดีเซลพื้นฐาน) มีความต้องการใช้สูงสุด วันละ 69.2 ล้านลิตร หรือ 43.2% รองลงมา ได้แก่ ก๊าซปิโตรเลียมเหลว วันละ 1 ล้านกิโลกรัม หรือ 20.9% กลุ่มน้ำมันเบนซิน วันละ 32.7 ล้านลิตร หรือ 20.4% กลุ่มน้ำมันอากาศยาน วันละ 19.4 ล้านลิตร หรือ 12.1% และน้ำมันเตา วันละ 5.3 ล้านลิตร หรือ 3.3 % ส่วนน้ำมันก๊าด มีความต้องการใช้เพียงเล็กน้อย วันละ 0.022 ล้านลิตร
สำหรับความต้องการใช้ก๊าซปิโตรเลียมเหลว(LPG)เดือนเม.ย. 2562 อยู่ที่ 543 ล้านกิโลกรัม เฉลี่ยวันละ 18.1 ล้านกิโลกรัม เป็นปริมาณการใช้LPG 427 ล้านกิโลกรัม เฉลี่ยวันละ 14.2 ล้านกิโลกรัม การใช้โปรเพน 108 ล้านกิโลกรัม เฉลี่ยวันละ 3.6 ล้านกิโลกรัม และการใช้บิวเทน 8 ล้านกิโลกรัม เฉลี่ยวันละ 0.3 ล้านกิโลกรัม
ทั้งนี้ หากเปรียบเทียบปริมาณความต้องการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงระหว่างเดือนเม.ย. กับเดือนมี.ค. 2562 พบว่า โดยรวมลดลง เฉลี่ยวันละ 3.7 ล้านลิตรต่อวัน หรือ 2.3% ซึ่งน้ำมันที่มีการใช้ลดลง ได้แก่น้ำมันเตา ลดลง 10.7%,น้ำมันอากาศยาน 9.8%,น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว 2% ในขณะที่น้ำมันก๊าด เพิ่มขึ้น 24.5%, กลุ่มน้ำมันเบนซิน เพิ่มขึ้น 1.2% และ ก๊าซปิโตรเลียมเหลว เพิ่มขึ้น 0.1%
อย่างไรก็ตาม หากเมื่อเปรียบเทียบความต้องการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงระหว่างเดือนเม.ย. ปี 2562 กับเดือนเม.ย.ปี 2561 พบว่า เพิ่มขึ้นวันละ 5.2 ล้านลิตร หรือ 3.4% โดยน้ำมันที่มีความต้องการใช้เพิ่มขึ้น ได้แก่ ก๊าซปิโตรเลียมเหลว 4.9%, น้ำมันเตา เพิ่มขึ้น 4%, กลุ่มน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว เพิ่มขึ้น 3.9% และกลุ่มน้ำมันเบนซิน เพิ่มขึ้น 3.8% ในขณะที่น้ำมันก๊าดลดลง1.6%
สำหรับความต้องการใช้ก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์(NGV) มีปริมาณ 163 ล้านกิโลกรัม เฉลี่ยวันละ 5.4 ล้านกิโลกรัม ซึ่งปริมาณลดลงจากเดือนมี.ค. 2562 วันละ 0.4 ล้านกิโลกรัม หรือ 7.5% และลดลงจากเดือนมี.ค.ปีก่อน(ปี 2561)วันละ 0.3 ล้านกิโลกรัม หรือ 5.8%