“สุพัฒนพงษ์” สั่งกระทรวงพลังงานจับมือรัฐวิสาหกิจ หามาตรการใหม่ๆ ด้านพลังงานช่วยเหลือประชาชน เสนอ ปลัด 13 พ.ค. นี้ พร้อมแนะเร่งนำเข้า LNG ช่วงราคาลดลงตอนนี้เหลือ 21-23 เหรียญสหรัฐฯต่อล้านบีทียู ช่วยลดต้นทุนค่าไฟฟ้าเหลือ 4-5 บาทต่อหน่วยได้ ชี้ที่ผ่านมา LNG พุ่ง 35 เหรียญสหรัฐฯต่อล้านบีทียู ดันต้นทุนค่าไฟฟ้าพุ่ง 7.5 บาทต่อหน่วย วอนประชาชนช่วยประหยัดไฟฟ้ามากขึ้น
นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้ผู้บริหารกระทรวงพลังงานทำงานร่วมกับหน่วยงานรัฐวิสาหกิจกระทรวงพลังงาน เช่น การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) และบริษัท ปตท.จำกัด(มหาชน) เป็นต้น ทบทวนมาตรการช่วยเหลือประชาชนในด้านพลังงาน โดยให้ร่วมมือกันหาแนวทางใหม่ๆ และนำมาเสนอปลัดกระทรวงพลังงานในวันที่ 13 พ.ค. 2565 นี้
นอกจากนี้ได้มอบหมายให้ผู้บริหารกระทรวงพลังงานไปพิจารณาหาวิธีนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว(LNG) ในช่วงฤดูร้อนนี้ที่ราคา LNG โลกอ่อนตัวลงเหลือ 21-23 เหรียญสหรัฐฯต่อล้านบีทียู จากช่วงต้นปี 2565 ที่ราคาเคยสูงถึง 30-40 เหรียญสหรัฐฯต่อล้านบีทียู และเร่งรัดสร้างคลังจัดเก็บ LNG ให้เสร็จโดยเร็ว เพราะหากเข้าสู่ฤดูหนาวราคาจะแพงขึ้นอีกครั้ง ส่วนผู้นำเข้า LNG ก็ให้พิจารณาการซื้อ LNG เก็บไว้แล้วทำประกันความเสี่ยงด้านราคา (Hedging) เป็นต้น
ทั้งนี้การซื้อ LNG ในช่วงราคาลดลงจะทำให้ค่าไฟฟ้าถูกลงด้วย โดยหากราคา LNG อยู่ที่ 35 เหรียญสหรัฐฯต่อล้านบีทียู จะทำให้ต้นทุนค่าไฟฟ้าสูงถึง 7.5 บาทต่อหน่วย แต่หากราคา LNG อยู่ที่ 21 เหรียญสหรัฐฯต่อล้านบีทียู ค่าไฟฟ้าจะอยู่ที่ 4-5 บาทต่อหน่วย แม้ค่าไฟฟ้าจะลดลงได้แต่ก็ยังแพงอยู่ ดังนั้นกระทรวงพลังงานจึงต้องให้โรงไฟฟ้าสลับการใช้ LNG กับน้ำมันดีเซลในการผลิตไฟฟ้าตามราคาน้ำมันเชื้อเพลิงที่ถูกลงในแต่ละช่วงเวลา
อย่างไรก็ตามแนวทางที่ดีที่สุดคือ ขอให้ประชาชนช่วยกันประหยัดพลังงาน โดยลดอุณหภูมิเครื่องปรับอากาศลง 1 องศา ช่วยประหยัดได้ถึง 10% พร้อมกันนี้เตรียมปรับแผนพลังงานระยะยาวให้เน้นพลังงานสะอาดเป็นหลัก ลดการพึ่งพาพลังงานจากต่างประเทศในอนาคต เพื่อความมั่นคงด้านพลังงานที่ยั่งยืนของคนรุ่นหลัง