โฆษก กกพ.นัดแถลงชี้แจงค่าไฟฟ้าผันแปร (Ft) ต่อสื่อมวลชน 5 สิงหาคม นี้ ยืนยันมติ กกพ. วันที่ 27 ก.ค.ปรับขึ้นFt อีก 68.66 สตางค์ต่อหน่วย ส่งผลค่าไฟฟ้าเฉลี่ยรวมพุ่งเป็น 4.72 บาทต่อหน่วย ส่วนที่นายกรัฐมนตรีมีนโยบายให้ตรึงค่าไฟไว้ก่อนนั้น รัฐบาลต้องเป็นผู้สั่งการ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.)ให้เป็นผู้รับภาระ เพราะเกินอำนาจหน้าที่ ของ กกพ.
ผู้สื่อข่าวศูนย์ข่าวพลังงาน ( Energy News Center-ENC ) รายงานว่า โฆษกคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน ( กกพ.)นาย คมกฤช ตันตระวาณิชย์ ได้นัดหมายแถลงชี้แจงตอบข้อซักถามเกี่ยวกับค่าไฟฟ้าผันแปร (Ft)งวดเดือน ก.ย.-ธ.ค. 65 ต่อสื่อมวลชน ในวันที่ 5 ส.ค. 65 ซึ่งเลื่อนมาจากเดิมที่กำหนดจะชี้แจงเมื่อวันที่ 1 ส.ค.65
โดยจะเป็นการยืนยันถึงมติ กกพ. วันที่ 27 ก.ค. 65 ที่ให้ปรับขึ้นค่าFt อีก 68.66 สตางค์ต่อหน่วย และจะส่งผลให้ค่าไฟฟ้าเฉลี่ยรวมพุ่งเป็น 4.72 บาทต่อหน่วยจากปัจจุบันอยู่ที่ 4.00 บาทต่อหน่วย โดยมีปัจจัยสำคัญมาจากประมาณการต้นทุนเชื้อเพลิงที่เพิ่มสูงขึ้นและ อัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินบาทต่อดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนค่าลง
ทั้งนี้ กกพ.ไม่เหลือวงเงินในการบริหารค่าFt เหมือนงวดก่อนๆหน้านี้ เนื่องจากนำมาใช้ตรึงค่าFt ไปจนหมดแล้ว
สำหรับนโยบายของนายกรัฐมนตรีพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่สั่งการผ่านนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ให้มีการตรึงค่าFt งวดเดือน ก.ย.-ธ.ค.65 ไว้ก่อนโดยให้ กฟผ.เป็นผู้รับภาระแทนประชาชนผู้ใช้ไฟฟ้าซึ่งเดิมมีกำหนดจะเรียก กกพ.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาร่วมหารือวันที่ 4 ส.ค.65 นั้น ได้มีการเลื่อนประชุมออกไปก่อน เนื่องจากนายกรัฐมนตรีติดภารกิจสำคัญ แต่ได้ให้ทาง กกพ.เตรียมพร้อมข้อมูลเอาไว้แล้ว
อย่างไรก็ตามแหล่งข่าวจาก กกพ.ระบุว่า การจะตรึงค่าFt โดยให้ กฟผ.มารับภาระแทนประชาชนไปก่อน เหมือนงวด ก.ย.-ธ.ค.64, ม.ค-เม.ย.65 และงวด พ.ค.-ส.ค.65 จน กฟผ.มีภาระสะสมรวม 87,849 ล้านบาท และมีปัญหาการขาดสภาพคล่องนั้น ถือเป็นนโยบายที่ต้องสั่งการโดยรัฐมนตรีพลังงานในฐานะที่กำกับดูแล กฟผ.และเสนอให้คณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบ ไม่ใช่อำนาจหน้าที่ของทาง กกพ.ที่จะสั่งการ กฟผ.ให้มาช่วยตรึงค่าFt ได้