คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ออกหลักเกณฑ์รับซื้อไฟฟ้าสีเขียว เฟส 2 ระยะที่ 1 สำหรับผู้ที่ผ่านคุณสมบัติแต่ไม่ได้รับการคัดเลือกในโครงการไฟฟ้าสีเขียวเฟสแรกจะได้รับสิทธิ์การพิจารณาก่อน โดยกำหนดเป้าหมายรับซื้อไฟฟ้าพลังงานลม 600 เมกะวัตต์ และโซลาร์ฟาร์ม 1,580 เมกะวัตต์ รวมทั้งสิ้น 2,180 เมกะวัตต์ จากเป้าหมายการรับซื้อไฟฟ้าสีเขียวเฟส 2 ทั้งหมด 3,632 เมกะวัตต์ ระบุหลังจากนี้ กกพ.เตรียมออกประกาศเปิดรับซื้อไฟฟ้าตามขั้นตอนต่อไป
ผู้สื่อข่าวศูนย์ข่าวพลังงาน (Energy News Center – ENC) รายงานว่า คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ได้ออกหลักเกณฑ์รับซื้อไฟฟ้าสำหรับ “โครงการรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนในรูปแบบ FiT สำหรับปี 2565-2573 สำหรับกลุ่มไม่มีต้นทุนเชื้อเพลิงเพิ่มเติม ระยะที่ 1” หรือที่เรียกกันทั่วไปว่าโครงการไฟฟ้าสีเขียว เฟส 2 ระยะที่ 1 โดยเปิดรับฟังความเห็นประชาชนต่อหลักเกณฑ์ดังกล่าวไปแล้วเมื่อวันที่ 14-20 ส.ค. 2567 ที่ผ่านมา ซึ่งหลักเกณฑ์ดังกล่าวจะให้สิทธิ์ผู้ที่ผ่านเกณฑ์เข้าร่วมโครงการไฟฟ้าสีเขียวเฟส 1 แต่ไม่ได้รับการคัดเลือกจะได้รับการพิจารณาก่อน
โดยสาระสำคัญของหลักเกณฑ์รับซื้อไฟฟ้าสีเขียว เฟส 2 ระยะที่ 1 นี้ ยังคงเป็นไปตามมติคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) และคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) ที่กำหนดเป้าหมายการรับซื้อไฟฟ้าเพิ่มเติมสำหรับพลังงานลม ไม่เกิน 600 เมกะวัตต์ เป็นลำดับแรก และพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดิน (โซลาร์ฟาร์ม) ไม่เกิน 1,580 เมกะวัตต์ เป็นลำดับที่ 2 รวมปริมาณไฟฟ้า 2,180 เมกะวัตต์
ทั้งนี้เป้าหมายการรับซื้อไฟฟ้ารายปียังคงเป็นไปตามแผนการเพิ่มการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานสะอาดภายใต้แผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย พ.ศ. 2561-2580 ฉบับปรับปรุงครั้งที่ 1 (PDP 2018 Rev.1) ในช่วงปี พ.ศ. 2564-2573 (ปรับปรุงเพิ่มเติมครั้งที่ 2) ที่ได้กำหนดการรับซื้อไฟฟ้ารายปีไว้ดังนี้
พลังงานลม เปิดรับซื้อไฟฟ้ารวม 1,000 เมกะวัตต์ แบ่งเป็นรับซื้อปี 2571 จำนวน 200 เมกะวัตต์, ปี 2572 จำนวน 400 เมกะวัตต์ และปี 2573 จำนวน 400 เมกะวัตต์ ส่วนโซลาร์ฟาร์ม จะเปิดรับซื้อไฟฟ้ารวม 2,632 เมกะวัตต์ แบ่งเป็นรับซื้อปี 2569 จำนวน 232 เมกะวัตต์ , ปี 2570 จำนวน 200 เมกะวัตต์ , ปี 2571 จำนวน 600 เมกะวัตต์ , ปี 2572 จำนวน 800 เมกะวัตต์ และปี 2573 จำนวน 800 เมกะวัตต์ รวมทั้งสิ้น 3,632 เมกะวัตต์
ดังนั้นการให้สิทธิ์พิจารณาผู้ที่ไม่ผ่านการคัดเลือกในโครงการไฟฟ้าสีเขียวเฟสแรกก่อน ในส่วนของไฟฟ้าพลังงานลม 600 เมกะวัตต์ จากเป้าหมายรับซื้อไฟฟ้ารวมทั้งสิ้น 1,000 เมกะวัตต์ ก็จะเหลือสำหรับเปิดรับซื้อไฟฟ้าพลังงานลมทั่วไปได้อีก 400 เมกะวัตต์ ส่วนไฟฟ้าจากโซลาร์ฟาร์มจะให้สิทธิ์พิจารณาผู้ที่ไม่ผ่านในเฟสแรก เสนอขายไฟฟ้าในโควตาที่เปิดรับซื้อ 1,580 เมกะวัตต์ จากเป้าหมายรับซื้อทั้งสิ้น 2,632 เมกะวัตต์ ก็จะเหลือสำหรับเปิดรับซื้อโควต้าทั่วไปได้อีก 1,052 เมกะวัตต์ ซึ่ง กกพ.อาจจะออกหลักเกณฑ์รับซื้อไฟฟ้าสีเขียว เฟส 2 ระยะที่ 2 ต่อไป
อย่างไรก็ตามสำหรับผู้ยื่นขอผลิตไฟฟ้าพลังงานลมและโซลาร์ฟาร์มที่ผ่านเกณฑ์การพิจารณาความพร้อมด้านเทคนิคขั้นต่ำและได้รับการประเมินความพร้อมตามเกณฑ์คะแนนคุณภาพ แต่ไม่ได้รับการคัดเลือกในเฟสแรก สามารถแสดงความประสงค์ขอเข้าคัดเลือกเพื่อร่วมโครงการได้โดยไม่ต้องปรับปรุงแก้ไขข้อเสนอขายไฟฟ้าแต่อย่างใด และในกรณีที่ผู้ยื่นเสนอขายไฟฟ้าเข้ารอบเป็นอันดับสุดท้าย อาจถูกปรับลดปริมาณไฟฟ้าเสนอขายเพื่อไม่ให้เกินกรอบเป้าหมายรับซื้อไฟฟ้าตามที่กำหนด
ทั้งนี้ตามกรอบการพิจารณารับซื้อไฟฟ้าได้กำหนดขั้นตอนไว้ดังนี้ หลังจาก กกพ. ออกระเบียบดังกล่าวและได้ลงประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว ทาง กกพ. จะออกประกาศรับซื้อไฟฟ้าดังกล่าว และให้ทางการไฟฟ้าประกาศรายละเอียดการรับซื้อไฟฟ้า จากนั้นจึงจะให้ผู้เสนอขายไฟฟ้ายื่นแบบขอเข้าร่วมโครงการ ซึ่งการไฟฟ้าจะใช้เวลาพิจารณาเอกสารประมาณ 2 สัปดาห์ จึงจะประกาศชื่อผู้ยื่นเสนอขายไฟฟ้าที่เข้าร่วมโครงการบนเว็บไซต์การไฟฟ้า จากนั้นจะพิจารณาคัดเลือกตามศักยภาพระบบไฟฟ้า และประกาศรายชื่อผู้ผ่านการคัดเลือก และให้มาลงนามเงื่อนไขสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) ต่อไป
