ปตท. เตรียมเสนอ” สนธิรัตน์ ” รัฐมนตรีพลังงานคนใหม่ เน้น เลิกอุดหนุนราคา LPG และ NGV และให้ช่วยเหลือกลุ่มผู้มีรายได้น้อยผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐแทน พร้อมกำหนดมาตรการส่งเสริมเชื้อเพลิงชีวภาพอย่างเป็นระบบ
นายชาญศิลป์ ตรีนุชกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด(มหาชน) หรือ ปตท. เปิดเผยว่า ปตท. ได้เตรียมข้อมูลเพื่อเสนอ นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานคนใหม่ เพื่อให้มีการกำหนดนโยบายการบริหารด้านเชื้อเพลิง อย่างมีประสิทธิภาพ มั่นคง และเป็นประโยชน์ทุกภาคส่วน
โดยในส่วนของราคาพลังงานควรจะปรับขึ้นลงตามกลไกตลาดทั้งหมด เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพการใช้พลังงาน เช่น ก๊าซหุงต้ม(LPG) และก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์(NGV) ควรสะท้อนต้นทุนที่แท้จริง เพราะประเทศไทยไม่ใช่ผู้ผลิตปิโตรเลียมรายใหญ่ ต้องมีการนำเข้าเป็นหลัก ดังนั้นจึงไม่มีวงเงินอุดหนุนสูงเหมือนกับประเทศผู้ผลิตน้ำมัน แต่การช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย ควรให้การช่วยเหลือผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐจะเหมาะสมกว่า
สำหรับเชื้อเพลิงชีวภาพ ไบโอดีเซลนั้น เสนอให้กระทรวงพลังงานจัดประชุมร่วมกับผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งผู้ประกอบการค้าน้ำมัน โรงกลั่นน้ำมัน โรงงานสกัดน้ำมันปาล์ม โรงงานผลิตน้ำมันปาล์มบริสุทธิ์ 100% (B100) และเกษตรกร เพื่อวางแผนร่วมกันในอนาคตว่าจะจัดการอย่างไรให้เกิดกลไกที่ยั่งยืน เพราะหากนำน้ำมันปาล์มมาผสมมากหรือน้อยไป ก็จะกระทบมาถึงราคาน้ำมันและน้ำมันเพื่อการบริโภคได้
“พืชน้ำมัน เช่น ปาล์ม ยอมรับว่าดูแลยาก หากราคาดี เกษตรกรก็จะปลูกกันเยอะ หรือกรณีแล้งก็ไม่มีผลผลิตปาล์ม เพราะฉะนั้น ต้องวางแผนร่วมกัน โดยเห็นว่า ควรให้มีความยืดหยุ่น และให้B10 เป็นน้ำมันพื้นฐาน ที่ควรกำหนดสเปคให้มีช่วงห่างตั้งแต่B5 ถึงB10 หากช่วงไหนปาล์มแพงก็ผสมน้อย หากปาล์มราคาถูกก็ผสมมาก เป็นต้น”นายชาญศิลป์กล่าว
นอกจากนี้ กระทรวงพลังงาน ควรจะพิจารณาถึงชนิดของน้ำมัน ควรจะปรับชนิดให้น้อยลง ทั้งกลุ่มเบนซิน และกลุ่มดีเซล โดยในส่วนดีเซลควรใช้B10 (น้ำมันดีเซลที่ผสมน้ำมันปาล์มบริสุทธิ์ 10%ในทุกลิตร)เป็นพื้นฐานทดแทนB7 (น้ำมันดีเซลที่ผสมน้ำมันปาล์มบริสุทธิ์ 7%ในทุกลิตร)
ในขณะที่ในปั๊มน้ำมันไม่ควรขายB20 (น้ำมันดีเซลที่ผสมน้ำมันปาล์มบริสุทธิ์ 20%ในทุกลิตร) โดยB20 ควรไปจำหน่ายเฉพาะพื้นที่ฟลีทรถบรรทุกเท่านั้น เพราะB20 ยังมีปัญหาในกรณีที่อากาศเย็นอาจจะเป็นไขและมีผลกระทบต่อเครื่องยนต์ได้ ซึ่งการที่แต่ละปั๊มมีการจำหน่ายน้ำมันหลายชนิดมากเกินไปจะกระทบต่อการบริหารจัดการทรัพย์สินที่ต้องมีการขายน้ำมันหลายชนิด ในขณะที่ยอดขายหรือรายได้ไม่ได้เพิ่มขึ้นแต่อย่างใด
ผู้สื่อข่าวศูนย์ข่าวพลังงาน (Energy News Center-ENC ) รายงานว่า นายสนธิรัตน์ มีกำหนดการ ที่จะเริ่มทำงานในกระทรวงพลังงานอย่างเป็นทางการในวันแรกพร้อมให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน ในวันที่ 18ก.ค.2562นี้ โดยช่วงเช้าจะมีการเข้าสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำกระทรวงร่วมกับผู้บริหารระดับสูงของหน่วยงานในกำกับดูแล
