เตรียมส่งเสริมใช้ดีเซลบี20 เป็นมาตรการถาวร

1169
- Advertisment-

รัฐมนตรีพลังงานเตรียมส่งเสริมดีเซลบี20เป็นมาตรการถาวรในระยะยาว หวังช่วยเพิ่มการใช้น้ำมันปาล์มบริสุทธิ์(บี100) ให้เพิ่มขึ้น  ยกระดับราคาปาล์มทะลายของเกษตรกรให้ขยับขึ้นมาอยู่ที่ระดับ3.50 บาทต่อกิโลกรัม

นายศิริ จิระพงษ์พันธ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า กระทรวงพลังงาน เตรียมส่งเสริมการใช้น้ำมันดีเซลเกรดพิเศษ บี20 (น้ำมันดีเซลที่ผสมน้ำมันปาล์มบริสุทธิ์ 20% ในทุกลิตร) เป็นมาตรการถาวรระยะยาว เพื่อช่วยพยุงราคาปาล์มทะลายของเกษตรกรชาวสวนปาล์มให้เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 3.50 บาทต่อกิโลกรัม ( วันที่21พ.ย.2561 ราคาปาล์มทะลาย อยู่ที่ 2.43บาทต่อกิโลกรัม )  อีกทั้งจะช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายของผู้ประกอบการรถบรรทุก รถขนส่งสินค้า และรถโดยสารสาธารณะ และลดแรงกดดันจากราคาน้ำมันที่ปรับสูงขึ้น  ไม่ให้ส่งผลกระทบต่อค่าโดยสาร

โดยล่าสุด ทางผู้ผลิตรถยนต์ยี่ห้ออีซูซุ และฮีโน่ ได้เข้ามาหารือแล้ว และระบุว่าจะสามารถใช้ดีเซลบี 20 กับรถบรรทุกได้มากขึ้น โดยเฉพาะฮีโน่ที่มีรถบรรทุก 1.8 แสนคัน สามารถใช้บี 20 ได้ทันที 1 แสนคัน เนื่องจากเป็นเกรดมาตรฐานยูโร 2 และอีก 8 หมื่นคันเป็นมาตรฐานยูโร 3 ซึ่งจะต้องมีการปรับเปลี่ยนเครื่องยนต์ก่อน

- Advertisment -

ที่ผ่านมาการส่งเสริมการใช้ดีเซลเกรดพิเศษ บี20 ในรถบรรทุก ทางกระทรวงพลังงาน ได้กำหนดราคาจำหน่ายที่ต่ำกว่าราคาดีเซลปกติ(บี7)เพิ่มขึ้น จากเดิมที่มีราคาต่ำกว่าเพียง 3 บาทต่อลิตรให้เป็นต่ำกว่า 5 บาทต่อลิตรเริ่มตั้งแต่ 1 ธ.ค.-28 ก.พ. 2562 โดยคาดว่า จะใช้เงินกองทุนน้ำมันฯ อุดหนุนราว 700 ล้านบาท ซึ่งมาตรการนี้ เชื่อว่า จะทำให้เกิดการใช้ดีเซลบี 20 จำนวน 10 ล้านลิตรต่อวันในเดือนพ.ค.ปีหน้า จากปัจจุบัน มีการใช้อยู่ที่ 5 แสนลิตรต่อวัน และเมื่อถึงปลายปี 2562 จะเพิ่มเป็น 15 ล้านลิตรต่อวันตามเป้าหมาย ซึ่งจะทำให้เกิดการใช้น้ำมันปาล์มดิบ ประมาณ 500,000 – 600,000 ตัน/ปี

สำหรับมาตรการการเพิ่มสัดส่วนการผสมน้ำมันปาล์มบริสุทธิ์หรือบี 100 ในดีเซลทั่วไปจากสัดส่วน 6.6% เป็น 6.9-7% หรือที่เรียกว่าดีเซลบี 7 นั้น ภายในปลายพ.ค.2562นี้ คาดว่าจะสามารถดูดซับน้ำมันปาล์มดิบ( CPO) ในระบบได้ประมาณ 4 แสนตันจากที่สต็อกปัจจุบันอยู่ในระดับ 4.2-4.5 แสนตัน

ทั้งนี้ แม้ว่ามาตรการดังกล่าวข้างต้น จะสามารถลดสต๊อกน้ำมันปาล์มดิบสู่ระดับปกติและพยุงราคาปาล์มทะลายให้อยู่ระดับราคา 3.25 บาทต่อกก. ได้ แต่สภาพโดยรวมของตลาดน้ำมันปาล์ม ยังมีปัจจัยกดดันจากการที่สหภาพยุโรป มีข้อกำหนดห้ามไม่ให้มีการใช้น้ำมันปาล์มในส่วนของอาหารและเชื้อเพลิง จึงยังไม่ควรเพิ่มผลผลิตปาล์มทะลายในช่วงนี้

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ยังกล่าวถึงสถานการณ์ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกด้วยว่า ถ้าติดตามราคาน้ำมันดิบตลาดโลก เมื่อวันที่ 20 พ.ย.2561 น้ำมันดิบเบรนท์ตลาดล่วงหน้า ส่งมอบเดือนธ.ค..-ม.ค. ลดลง 4.25 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หรือ อยู่ที่ 62.75 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล จะส่งผลให้ราคาขายปลีกน้ำมันในประเทศไปจนถึงสิ้นปีนี้จะอยู่ในระดับต่ำ ซึ่ง คณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน(กบง.)จะไม่มีการเรียกเก็บเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯเพิ่ม เพราะอัตราที่จัดเก็บในปัจจุบันจะช่วยให้มีเงินเพิ่ม 1.1 หมื่นล้านบาทใน 3 เดือนแล้ว

Advertisment