รองนายกรัฐมนตรี เตรียมตั้งคณะกรรมการฯ สอบใช้งบกองทุนอนุรักษ์ฯปี 2561 (เพิ่มเติม) วงเงิน 5,200 ล้านบาท และงบปี 2562 วงเงิน 10,448 ล้านบาท หลังถูกร้องเรียนไม่โปร่งใส ยืนยันเปิดประชุมคณะกรรมการกองทุนฯ 6 ก.ย. 2561นี้ เพื่อพิจารณาโครงการที่เสนอเข้ามาตามวาระ ขณะที่ปลัดพลังงานระบุล่าสุดมีผู้เสนอโครงการขอใช้งบปี 2562 กว่า 900 โครงการ รวมวงเงินกว่า 3 หมื่นล้านบาท แต่มีงบประมาณ 10,448 ล้านบาท
พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน (กองทุนอนุรักษ์ฯ) เปิดเผยถึงกรณีข้อร้องเรียนให้ตรวจสอบการดำเนินงานของกองทุนอนุรักษ์ฯว่า คณะกรรมการกองทุนฯ เตรียมจัดตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการใช้งบประมาณกองทุนอนุรักษ์ฯ สำหรับโครงการปี 2561 (เพิ่มเติม) ภายใต้กลุ่มโครงการ “ไทยนิยมยั่งยืน” วงเงิน 5,200 ล้านบาท และงบประมาณปี2562 วงเงิน 10,448 ล้านบาท หลัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี สั่งการให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงเพื่อให้เกิดความโปร่งใสในการดำเนินงานทุกขั้นตอน
โดยการจัดตั้งคณะกรรมการตรวจสอบฯ จะดำเนินการควบคู่ไปกับการพิจารณาอนุมัติงบประมาณสำหรับโครงการปี 2561และ 2562 ซึ่งในวันที่ 6 ก.ย. 2561 จะมีการประชุมคณะกรรมการกองทุนฯ ตามกำหนดการเดิม เพื่อเดินหน้าพิจารณาอนุมัติโครงการตามวาระปกติ
นายศิริ จิระพงษ์พันธ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาตัวบุคคลเข้าทำหน้าที่เป็นคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ส่วนจะเป็นหน่วยงานกลาง หรือ บุคคลใดนั้น คาดว่าจะมีความชัดเจนในเร็วๆนี้
ส่วนการพิจารณาโครงการที่ยื่นข้อเสนอขอรับงบสนับสนุนในปี 2561 และปี 2562 ในวันที่ 6 ก.ย. 2561 หากโครงการใดมีความพร้อมก็จะอนุมัติโครงการก่อน เพื่อให้เกิดความรวดเร็วในการดำเนินการและต้องโปร่งใส ส่วนโครงการที่ยังมีความล่าช้าในเรื่องของเอกสารต่างๆ เช่น โครงการติดตั้งระบบสูบน้ำพลังงานแสงอาทิตย์เพื่อการเกษตร ที่ได้รับความสนใจจากเกษตรกรในภาคอีสานจำนวนมาก ก็จะต้องนำเสนอคณะกรรมการกองทุนฯพิจารณาว่าจะสามารถขยายระยะเวลาโครงการได้หรือไม่
นายธรรมยศ ศรีช่วย ปลัดกระทรวงพลังงาน ในฐานะประธานคณะกรรมการกลั่นกรองกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน กล่าวว่า คณะกรรมการจะเร่งพิจารณาโครงการที่ยื่นของงบปี 2562 ที่มีกว่า 900 โครงการ รวมวงเงินกว่า 3 หมื่นล้านบาท ขณะที่งบประมาณมีเพียง 10,448 ล้านบาท เพื่อเสนอเรื่องให้คณะอนุกรรมการฯ และคณะกรรมการกองทุนฯพิจารณาตามขั้นตอนต่อไป