เชฟรอน ร่วมขบวนนักธุรกิจสหรัฐ เดินสายเข้าพบ นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีพาณิชย์ รัฐมนตรีคลัง สอบถามนโยบายด้านการค้า การลงทุน และการเป็นหุ้นส่วนเศรษฐกิจ ระบุไทยควรสรรหานักลงทุนที่มีคุณภาพที่จะสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับเศรษฐกิจไทยแบบยั่งยืนและเกื้อกูลสังคมเพื่อช่วยยกระดับมาตรฐานของประเทศ
เมื่อเร็วๆนี้คณะนักธุรกิจสหรัฐ ในนามสภานักธุรกิจอาเซียน-สหรัฐฯ (US-ASEAN Business Council หรือ USABC) ที่รวมถึง เชฟรอนเอเชียแปซิฟิกเดินสายเข้าพบพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ทำเนียบรัฐบาล และนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ที่กระทรวงพาณิชย์ และนายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง โดยนับเป็นคณะนักธุรกิจจากสหรัฐอเมริกาที่เข้าพบหน่วยงานในรัฐบาล ที่มีจำนวนมากที่สุดในประวัติศาสตร์ในรอบ 35 ปี คือ 108 คนจาก 46 บริษัท อาทิ เชฟรอนเอเชียแปซิฟิก 3 เอ็ม, แอร์บีเอ็นบี, อเมซอน, เบเยอร์, เพาเวอร์กรุ๊ป เอเชีย, คาร์กิลล์,, ซิกน่า, ซิสโก้, ซิตี้, โคโนโคฟิลลิปส์, ดิอาจิโอ, ดาว, เอ็กซอนโมบิล, เฟดเอ็กซ์, ฟอร์ด, การ์เดี้ยน อินตัสตรี, ฮาเล่ เดวิดสัน, เฮอร์บาไลฟ์, เอชพี, จอห์นสันแอนด์จอห์นสัน, แมริออท, McLarty Associates, เน็ตฟลิก, ออราเคิล, เพย์พาว, เป๊บซี่โค, พีเอ็มไอ, พีแอนด์จี, ซีเกท, ทีอีคอนเน็คทิวิตี้, ไทสัน, แอปเปิล, เอ็มเอสดี, เอ็กซ์พีเดีย, อโกดา, กูเกิล, ควอลคอมม์
โดย นางสาวศิริพร ไชยสุต รองประธานกรรมการบริหารฝ่ายยุทธศาสตร์เอเชีย-แปซิฟิก บริษัท เชฟรอนเอเชียแปซิฟิก จำกัด ซึ่งเป็นหนึ่งในนักธุรกิจที่ร่วมในคณะเขียนลงในเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุเนื้อหาสำคัญ ว่า นักลงทุนก็เหมือนนักท่องเที่ยว ดังนั้นประเทศไทยควรสรรหานักลงทุนที่มีคุณภาพที่จะสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับเศรษฐกิจไทยแบบยั่งยืนและเกื้อกูลสังคมเพื่อช่วยยกระดับมาตรฐานของประเทศ
พร้อมเน้นย้ำว่า ประเทศไทยไม่ควรที่จะลดระดับมาตรฐานเรื่องสิ่งแวดล้อม สิทธิมนุษยชน ธรรมาภิบาลที่สร้างสมมาจนเทียบได้กับนาๆประเทศแล ้ว ซึ่งการที่ตัวเธอได้เห็นหัวหน้าคณะรัฐบาล (พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา )ให้การต้อนรับนักลงทุนจากสหรัฐ เป็นอย่างดี ก็รู้สึกชื่นชมและเชื่อมั่นว่ารัฐบาลไทยได้ตระหนักในสิ่งสำคัญของจุดนี้และเป็นการมองการณ์ไกล.
ทั้งนี้สาระสำคัญของการที่นักธุรกิจจาก USABC เข้าพบผู้นำรัฐบาลและรัฐมนตรีในหลายกระทรวงสำคัญทางเศรษฐกิจ ครั้งนี้ เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็น และต้องการที่จะสร้างความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างสหรัฐฯ กับไทยให้เพิ่มมากขึ้น ทั้งในด้านการค้า การลงทุน โดยเฉพาะในช่วงหลังจากที่ไทยผ่านกระบวนการเลือกตั้ง มีรัฐบาลใหม่ ที่ทำให้บรรยากาศทางการเมืองดีขึ้น
โดยฝ่ายไทย ได้ฝากให้นักธุรกิจสหรัฐฯ ที่เข้ามาลงทุนในไทย ได้ใช้วัตถุดิบภายในประเทศในการผลิตสินค้าและบริการ และที่สำคัญ ขอให้ใช้ระบบเกษตรพันธสัญญาเพื่อช่วยดูแลราคาสินค้าเกษตรให้กับเกษตรกรที่ผลิตสินค้าคุณภาพและให้ใช้ยางพาราเป็นวัตถุดิบในการผลิตยางรถยนต์ด้วย
ทั้งนี้รัฐบาลได้เชิญชวนภาคเอกชนของสหรัฐฯเข้ามาลงทุนในประเทศไทยเพิ่มมากขึ้น โดยเอกชนสหรัฐฯหลายบริษัทให้ความสนใจที่จะลงทุนทางด้านพลังงาน ยาและธุรกิจสุขภาพโรงแรมและภาคการเงิน ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้ขอให้การลงทุนใดๆของนักลงทุนสหรัฐฯคำนึงถึงผลประโยชน์ของประชาชนและคนไทยในภาคเกษตรกรด้วย ในขณะที่นักลงทุนสหรัฐฯนั้นต้องการให้ไทยเป็นศูนย์กลางที่สำคัญของการลงทุนสหรัฐฯในภูมิภาคนี้ เช่น ศูนย์กลางทางด้านพลังงาน โดยบริษัท เชฟรอน และบริษัท เอ็กซอนโมบิล แสดงความสนใจที่จะลงทุนเพิ่มเติม