เวลาพูดถึง ปตท.คนทั่วๆไปอาจจะนึกเห็นภาพ ปั๊มน้ำมัน ที่มีโลโก้ เหมือนดวงไฟสีแดง ล้อมด้วยเปลวไฟสีฟ้า นึกถึงกาแฟอเมซอน นึกถึงถังแก๊สหุงต้มในครัว หรือนึกถึงคนที่ปลูกป่า 1 ล้านไร่ หรือ คนที่ออกแรงเป็นสปอนเซอร์ช่วยสังคมเยอะๆ ช่วงวิกฤติโควิด -19 ซึ่งเป็นการนึกภาพตามแต่ประสบการณ์ที่แต่ละคนได้สัมผัส
แต่ถ้าใครได้มาที่อาคารสำนักงานใหญ่ ปตท.ตรงถนนวิภาวดีรังสิต ใกล้ห้าแยกลาดพร้าว วันที่ 28 ก.พ.-3 มี.ค. 2566 และได้ชมงาน PTT Group Tech & Innovation Day “Beyond Tomorrow”ความเข้าใจในภาพที่เกี่ยวกับ ปตท.จะแตกแขนง ออกลูก ออกหลาน ไปมากมายหลายสิ่งหลายอย่างกว่าที่เคยรู้จัก อาจจะคิดไม่ถึงว่า ปตท.เข้าไปทำเรื่องอะไรแบบนี้ด้วยหรือ
งานที่จัดขึ้นเป็นการรวบรวมเอาเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่อยู่ในกลุ่ม ปตท.ทั้งบริษัทลูก บริษัทหลาน บริษัทร่วมทุน ทั้งหมด มารวมไว้ในสถานที่เดียวกัน โดยเริ่มให้เข้าชมงานได้ตั้งแต่วันที่ 28 กุมภาพันธ์ แต่วันที่มีพิธีเปิดงานโดยมี คุณสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน และ คุณวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ร่วมเป็นประธาน นั้นจะมีวันที่ 1 มีนาคม 2566 โดยผู้บริหารระดับสูงของ ปตท.น่าจะมากันครบ ทั้ง ศ.พิเศษ ดร.ทศพร ศิริสัมพันธ์ ประธานกรรมการ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) คุณ อรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และ ดร.บุรณิน รัตนสมบัติ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการกลุ่มธุรกิจใหม่และโครงสร้างพื้นฐาน บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นแม่งาน
–
ปตท.จัดงานครั้งนี้ขึ้น ก็เพื่อให้ทุกคนเห็นถึง ศักยภาพด้านเทคโนโลยี และการลงทุนด้านนวัตกรรมของกลุ่ม ปตท. ที่สอดรับกับทิศทางโลกที่มุ่งไปในเรื่องของการปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ คือผลิตคาร์บอนเท่าไหร่ในกระบวนการทางธุรกิจ ก็พยายามดูดซับกลับคืนทั้งหมด หรือ Carbon Neutrality และ Net Zero Emissions
การจัดงานแบ่งเป็นส่วนของ 1.นิทรรศการ ที่แต่ละบริษัทในกลุ่มปตท.จะนำผลงาน ด้านเทคโนโลยี นวัตกรรม และธุรกิจใหม่จาก กลุ่ม ปตท. มาโชว์ ใน 7 ด้าน ประกอบด้วย Future Energy พลังงานในอนาคต เช่น ไฮโดรเจน , Future Mobility ยานยนต์ไฟฟ้า, Life Science อาหารและยา , AI, Robotics & Digitalization, Logistics & Infrastructure ,จะเห็นสุนัขตรวจการ หุ่นยนต์เสริฟอาหาร โดรนบินสำรวจ Decarbonization และ Innovation Ecosystem
–
เวที Tech Talk สำหรับการ แลกเปลี่ยนแนวคิด และเทรนด์เทคโนโลยี นวัตกรรมที่น่าจับตา มีหัวข้อที่น่าสนใจกว่า 23 หัวข้อ
อีกส่วนที่ทราบมา คือ Pitching Desk ซึ่งจะเป็นพื้นที่นำเสนอนวัตกรรมและธุรกิจใหม่ของกลุ่ม ปตท. กว่า 30 แบรนด์ เปิดให้นักลงทุนและผู้สนใจได้ร่วมพูดคุย ต่อยอดและขยายโอกาสการเติบโตสู่ธุรกิจที่ไม่ใช่เฉพาะเรื่องพลังงาน
แนะนำว่าคนที่สนใจจะไปชมงานนี้แบบอยากรู้จักศักยภาพของกลุ่ม ปตท.ให้มากกว่าที่เคยรู้จัก ต้องมีเวลาสักครึ่งวันเป็นอย่างน้อย แต่ละบูธของแต่ละบริษัทมีเจ้าหน้าที่ผู้มีความรู้ พูดได้ทั้งไทยและอังกฤษ ที่จะตอบข้อสงสัย เมื่อได้เวลาหัวข้อที่น่าสนใจในเวที Tech Talk แว่บเข้าไปนั่งฟัง แล้วค่อยออกมาเดินชมบูธใหม่
ใครไปแล้วจะรู้ว่า เหมือนเปิดโลกใหม่ ได้รู้จัก ปตท.มากกว่าที่เคยรู้จักอย่างแน่นอน