เขียนเล่าข่าว EP 10 -น้ำมันแพง ยอดใช้พุ่ง นำเข้าเพิ่ม

519
- Advertisment-

กรมธุรกิจพลังงานออกมาเปิดเผยสถานการณ์การใช้น้ำมันเชื้อเพลิงรอบ 4 เดือนของปี 2565 (มกราคม-เมษายน ) ซึ่งทำให้เห็นประเด็นที่น่าสนใจว่าถึงแม้ของที่ต้องใช้ราคาจะแพงขึ้น และเราต้องพึ่งพาการนำเข้ามาใช้ แต่เมื่อรัฐบาลมีนโยบายที่ทำให้มีราคาต่ำกว่าต้นทุนที่เป็นจริง ตัวเลขการใช้ก็ยังเพิ่มสูงขึ้นเพราะคนใช้ยังไม่ได้รู้สึกว่าต้องประหยัด ซึ่งสิ่งที่ตามมาคือ เราก็ต้องจ่ายเงินเพื่อไปนำเข้ามามากขึ้นนั่นเอง

ของที่เปรียบ​เปรย​ให้เห็น ก็คือน้ำมันดีเซล ที่เมื่อไปเปิดดูตัวเลขสถิติ 4 เดือนแรกของปี 65 ปริมาณการใช้เฉลี่ยต่อวัน เพิ่มจาก 66.82 ล้านลิตร เป็น 77.28 ล้านลิตร หรือเพิ่มขึ้น 15.7 %

โดยปัจจัยที่ทำให้ยอดการใช้ยังเพิ่มขึ้นมาก นั้นมาจากนโยบายการตรึงราคาดีเซล ที่ต่ำกว่าต้นทุนจริง ที่ ณ วันที่ 31 พ.ค. 65 รัฐยังใช้กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเข้าไปอุดหนุนอยู่ลิตรละ 6.35 บาทโดยราคาหน้าโรงกลั่นอยู่ที่ 34.94 บาทต่อลิตร เมื่อรวมภาษีสรรพสามิต ค่าการตลาดแล้ว ราคาหน้าปั๊มยังขายอยู่ที่ 32.94 บาทต่อลิตร

- Advertisment -

ส่วนอีกปัจจัยที่ทำให้การใช้ดีเซลเพิ่มมากขึ้นคือการนำมาเป็นเชื้อเพลิงผลิตไฟฟ้าทดแทนLNG ที่ใช้อยู่ประมาณ 7 ล้านลิตรต่อวัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ที่ใช้อยู่ 2.3 ล้านลิตรต่อวัน

ในขณะที่กลุ่มน้ำมันเบนซินที่รัฐปล่อยให้ราคาขึ้นได้อย่างเต็มที่ ยกตัวอย่าง แก๊สโซฮอล์ 95 อี10 ที่ราคาหน้าโรงกลั่น ณ วันที่ 31 พ.ค. 65 อยู่ที่ 31.92 บาทต่อลิตร ซึ่งถูกกว่าดีเซล แต่เมื่อเป็นราคาขายหน้าปั๊มผู้บริโภคต้องจ่ายถึง 43.85 บาทต่อลิตร แพงกว่าดีเซลประมาณ 10 บาทต่อลิตร นั่นจึงทำให้ยอดการใช้กลุ่มเบนซินในภาพรวมลดลง 3.9% จากวันละ30 ล้านลิตร เหลือ วันละ 29 ล้านลิตร เพราะผู้ใช้รู้ว่าแพงแล้วต้องประหยัดการใช้ลง

ยอดการใช้น้ำมันที่เพิ่มขึ้น ทำให้เราต้องนำเข้าน้ำมันดิบจากต่างประเทศเพิ่มขึ้นโดยตัวเลขเดือน ม.ค. – เม.ย 65 เฉลี่ยอยู่ที่ 951,689 บาร์เรลต่อวัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่นำเข้า 872,568 บาร์เรลต่อวัน เพิ่มขึ้น 9.1%

ที่น่าตกใจคือมูลค่าการนำเข้าน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 96,646 ล้านบาทต่อเดือน เพิ่มขึ้นถึง 96.5 % จากช่วงเดียวกันที่มีมูลค่า 49,185 ล้านบาท ซึ่งหมายความว่า เราต้องจ่ายเงินเพิ่มขึ้นประมาณ 47,461 ล้านบาท แต่ได้น้ำมันดิบเพิ่มขึ้นมาแค่ 9.1%

ย้ำให้เห็นถึงการแบกภาระของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ณ วันที่ 29 พ.ค. 2565 มียอดติดลบไปแล้ว 81,395 ล้านบาท

โดยหากคิดที่ตัวเลขการใช้ดีเซลB7 วันละ 66.6 ล้านลิตร และกองทุนน้ำมันยังช่วยอุ้มอยู่ลิตรละ 6.35 บาทเช่นในปัจจุบัน หมายความว่า กองทุนน้ำมันจะติดลบเพิ่มขึ้นวันละ422 ล้านบาท หรือเดือนละประมาณ 12,660 ล้านบาท ดังนั้นอีกไม่ถึง 2 เดือนข้างหน้า การติดลบของกองทุนน้ำมันก็จะทะลุ 1 แสนล้านบาท

เอาตัวเลขมาแสดงให้เห็นแบบนี้เผื่อจะได้ช่วยกันหาทางออกโดยเฉพาะกับกลุ่มคนใช้ดีเซล

Advertisment