อาเซียนประกาศเร่งเครื่องเพิ่มสัดส่วนพลังงานหมุนเวียนให้ถึงเป้าหมาย 23% ในปี 2568 พร้อมปรับลดความเข้มข้นการใช้พลังงานให้ได้ 24.4% ในปี 2568 หลังบรรลุเป้าหมายเดิมที่ลดลง 20% ไปตั้งแต่ปี 2560 ซึ่งแสดงว่าการใช้พลังงานมีประสิทธิภาพดีขึ้น
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยผลการประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านพลังงาน ครั้งที่ 37 ว่า ที่ประชุมมีมติเห็นชอบที่จะเพิ่มสัดส่วนพลังงานหมุนเวียนในภาพรวมการใช้พลังงาน ให้ได้ ถึง 23% ในปี 2568 จากปัจจุบัน อยู่ที่ 13% และขยายโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานให้ครอบคลุมในภูมิภาคมากขึ้น ส่งผลให้เกิดความมั่นคงด้านพลังงานในภาพรวมของภูมิภาค
นอกจากนั้น ยังเห็นพ้องกำหนดเป้าหมายใหม่ในการลดความเข้มข้นของการใช้พลังงานของอาเซียน โดยตั้งเป้าลดให้ได้ 24.4% ในปี 2568 จากเดิมกำหนดไว้ 20% ในปี 2563 แต่ปี 2560 ทำได้ 21% ซึ่งบรรลุเป้าหมายไปแล้ว
ทั้งนี้ ค่าความเข้มข้นของการใช้พลังงาน หรือ Energy Intensity (EI) ที่ลดลง แสดงว่าการใช้พลังงานมีประสิทธิภาพดีขึ้น กล่าวคือ มีการใช้พลังงานน้อยลงในการผลิตสินค้าและบริการ
ส่วนการหารือกับทบวงพลังงานระหว่างประเทศ (IEA) ในเรื่องภาพอนาคตพลังงานของภูมิภาคอาเซียนนั้น IEA คาดการณ์ว่าอาเซียนจะมีการเติบโตของ การใช้พลังงานอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการเติบโตของการใช้พลังงานสะอาด ทั้งนี้ เพื่อให้อาเซียน สามารถรับมือกับประเด็นความเสี่ยงด้านความมั่นคงด้านพลังงานในอนาคตได้ โดย IEA มีข้อเสนอแนะให้อาเซียนมุ่งพัฒนานโยบายการส่งเสริมการลงทุนในด้านโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานให้เพียงพอต่อความต้องการใช้พลังงานในอนาคต และ IEA ยินดีให้การสนับสนุนในความร่วมมือกับอาเซียน ต่อไป
ขณะเดียวกัน มีการหารือกับทบวงพลังงานหมุนเวียนระหว่างประเทศ (IRENA) ในประเด็นบทบาทของพลังงานทดแทน ทั้งในบริบทโลกและในภูมิภาค และการเตรียมการรับมือกับยุคแห่งการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานไปสู่พลังงานสะอาดในอนาคต ซึ่งทุกประเทศต้องมีการพัฒนานโยบาย การลงทุน และการสร้างนวัตกรรม เพื่อให้สามารถผลิตและใช้พลังงานสะอาดได้มากขึ้นในอนาคต