อนุ กมธ.พลังงานทดแทน สว. ห่วงโรงไฟฟ้าขยะ ไม่คืบหน้าตามแผน ซึ่งจะก่อปัญหาขยะล้นเมืองในอนาคต
ผู้สื่อข่าวศูนย์ข่าวพลังงาน ( Enegy News Center -ENC ) รายงานว่า เมื่อเร็วๆนี้ คณะอนุกรรมาธิการพิจารณาศึกษาด้านพลังงานทดแทน วุฒิสภา ที่มีนายสรชาติ วิชย สุวรรณพรหม ประธานคณะอนุกรรมาธิการพิจารณาศึกษาด้านพลังงานทดแทน วุฒิสภา ได้เชิญผู้แทนจาก กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น และสำนักงาน กกพ. เพื่อมาชี้แจงโครงการกำจัดขยะเพื่อผลิตกระแสไฟฟ้าขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผ่าน พ.ร.บ.รักษาความสะอาด โดยที่ประชุมได้แสดงความเป็นห่วงเนื่องจากโครงการโรงไฟฟ้าจากขยะมูลฝอยทั่วประเทศส่วนใหญ่ ไม่มีความคืบหน้า ในเรื่องของการจัดการขยะที่เป็นเชื้อเพลิงในโรงไฟฟ้าที่ไม่สามารถจัดขนส่งข้ามเขตได้ และปัญหาผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ จึงเสนอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำหนดเงื่อนไขการขนย้ายขยะให้เอื้อต่อการดำเนินกิจการโรงไฟฟ้า เพราะหากไม่เร่งจัดการจะเกิดปัญหาขยะล้นเมืองในหลายจังหวัดได้
ทั้งนี้ปัจจุบันรัฐบาลเปิดโอกาสให้ภาคเอกชนยื่นขอใบอนุญาตตั้งโรงไฟฟ้า โดยใช้วัตถุดิบจากการกำจัดขยะ หรือ RDF ด้วยการเปิดโอกาสให้ อปท. รวมกลุ่ม 243 คลัสเตอร์ 6,836 แห่ง แบ่งเป็นโรงกำจัดขยะขนาด S มีจำนวน 184 กลุ่ม กำจัดขยะมูลฝอยได้ 300 ตัน/วัน , โรงกำจัดขยะขนาด M มีจำนวน 36 กลุ่ม กำจัดขยะมูลฝอยได้ 300-500 ตัน/วัน, โรงกำจัดขยะขนาด L มีจำนวน 23 กลุ่ม กำจัดขยะมูลฝอยได้มากกว่า 500 ตัน/วัน
โดยสถานะของโครงการกำจัดขยะมูลฝอยเพื่อผลิตกระแสไฟฟ้าในปัจจุบัน แบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม กลุ่มแรก เป็นโครงการ Quik Win รัฐบาลอนุมัติโครงการและจ่ายกระแสไฟฟ้าไปแล้ว 6 โครงการ อยู่ระหว่างขยายเวลาจ่ายไฟเข้าระบบเชิงพาณิชย์ 1 โครงการ ยกเลิกสัญญา 4 โครงการ ส่วนกลุ่มที่ 2 อปท. สนับสนุนให้เสนอขายไฟฟ้า 29 โครงการ ยังไม่ยื่นเอกสาร 4 โครงการ กลุ่มที่ 3 รัฐมนตรีมหาดไทยเห็นชอบแล้ว 24 โครงการ ตามมติ กพช. 6 พ.ค.2565 เห็นชอบให้รับซื้อไฟฟ้าจากขยะชุมชน 34 โครงการ 282.98 MW ตามแผน PDP2018
