รองนายกรัฐมนตรี เร่ง ปตท.ลงทุนช่วงบาทแข็งช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย พร้อมแนะเปิดร้านคาเฟ่ อเมซอน ในพื้นที่ขุมชน ในขณะที่ ซีอีโอ ปตท. รับลูกเตรียมเสนอบอร์ด ปตท.เดือน ธ.ค. 2562 พิจารณางบลงทุนปี 2563 มูลค่า 1 แสนล้านบาท ขณะที่แผนการลงทุนไตรมาส 4 ปี 2562 จะมีมูลค่า 3 หมื่นล้านบาท
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังตรวจเยี่ยมและมอบนโยบายให้บริษัท ปตท.จำกัด(มหาชน) เมื่อวันที่ 10 ต.ค.2562 ว่า ได้สั่งการให้ ปตท.เร่งลงทุนในช่วงที่เงินบาทแข็งค่า เพื่อช่วยให้เศรษฐกิจของประเทศขับเคลื่อนได้ในช่วงที่เศรษฐกิจโลกตกต่ำ ซึ่งการที่เงินบาทแข็งค่าถือเป็นจังหวะที่ดีในการลงทุนโครงการใหม่ๆ ที่ช่วยลดเงินลงทุนได้ หากนักธุรกิจช่วยกันลงทุนช่วงนี้จะมีส่วนช่วยให้ค่าเงินบาทอ่อนค่าลงได้ ซึ่ง ปตท.ถือเป็นตัวอย่างที่ดี โดยตั้งเป้าหมายงบลงทุนช่วงไตรมาส 4 ปี 2562 ไว้ 3 หมื่นล้านบาท และในปี 2563 ตั้งงบลงทุนไว้ประมาณ 1 แสนล้านบาท
นอกจากนี้ได้เสนอให้ ปตท.ตั้งร้านคาเฟ่อเมซอนในพื้นที่ชุมชนเพิ่มเติมนอกเหนือจากตั้งในปั๊มน้ำมัน เพื่อช่วยพัฒนาสินค้าชุมชน นำสินค้าชุมชนที่ได้รับคัดเลือกแล้วมาจำหน่ายในร้านด้วย ซึ่งจะช่วยสร้างรายได้ให้กับชุมชน และถือเป็นส่วนหนึ่งของโครงการประชารัฐสร้างไทย ของรัฐบาลที่ต้องการพัฒนาชุมชน เกษตรกร และการท่องเที่ยวให้เข้มแข็งขึ้น
ส่วนการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.)ของ บริษัท ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (OR)นั้น ได้มอบนโยบายให้เป็นปั๊มน้ำมันที่ให้ชุมชนเข้ามามีส่วนร่วมได้ โดยสามารถจับจองพื้นที่สำหรับวางจำหน่ายสินค้าของวิสาหกิจชุมชนได้ โดยให้ ปตท.ไปหารือว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป
พร้อมกันนี้ ปตท.ยังเป็นบริษัทที่มีส่วนช่วยสร้างบุคลากรที่มีประสิทธิภาพให้กับประเทศไทย ดังนั้นจึงต้องการให้ ปตท.สร้างสถาบันผลิตบุคลากรตามนโยบายของรัฐ ให้สอดคล้องกับทิศทางของประเทศในอนาคต ที่มีความรู้เฉพาะด้าน โดยธุรกิจร้านคาเฟ่ อเมซอนสามารถรองรับบุคลากรด้านบริการได้จำนวนมาก ซึ่งจะช่วยให้เกิดการจ้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้มากขึ้น
ส่วนโครงการผลิตปุ๋ยสั่งตัด (ปุ๋ยเคมีแบบที่สั่งผลิตตามชนิดของดิน) ที่รัฐบาลมอบหมายให้ ปตท.มาช่วยดำเนินการผลิตและจำหน่ายให้กับเกษตรกรในราคาต้นทุนนั้น ปตท.รายงานว่า ปตท.จะร่วมมือกับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธ.ก.ส.) วางระบบสั่งแม่ปุ๋ยเข้ามาผลิตเป็นปุ๋ยสั่งตัดเพื่อจำหน่ายให้เกษตรกรในต้นทุนต่ำ ได้ประมาณปี 2563
ทั้งนี้ปตท.นับเป็นองค์กรที่มีวิสัยทัศน์ใหม่ ที่เน้นการเติบโตไปพร้อมกับสังคมและประเทศไทย ซึ่งธุรกิจปตท.จะช่วยสร้างงาน สร้างรายได้ ดูแลสังคมและช่วยแก้ปัญหาความยากจน ซึ่งแตกต่างจากหลายธุรกิจ โดยตั้งแต่ธุรกิจต้นน้ำ ของ ปตท. จะเน้นสร้างไทยให้เป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมปิโตรเคมีในภูมิภาคอาเซียน ขณะที่ธุรกิจปลายน้ำของ ปตท.เน้นการใช้วัสดุที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น
“ขณะนี้ทุกประเทศในโลกกำลังลำบาก ไม่ใช่แค่ไทย แต่พื้นฐานเราแข็งแรง ดังนั้นอย่าท้อแท้ เสียกำลังใจ แม้บาทจะแข็งค่าแต่ยังมีเงินไหลเข้าไทย ดังนั้นขอให้ช่วยกันลงทุนในช่วงนี้ ถ้าสั่งซื้อสินค้าเราก็ได้กำไร อย่าคิดว่าช่วงวิกฤติเราจะแย่ แต่ถือเป็นโอกาสที่เราต้องสู้” นายสมคิด กล่าว
ด้านนายชาญศิลป์ ตรีนุชกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จํากัด (มหาชน) กล่าวว่า ในเดือนธ.ค.2562 นี้ คณะกรรมการ(บอร์ด) ปตท.จะพิจารณางบลงทุนของปี 2563 วงเงินเกือบ 1 แสนล้านบาท ซึ่งจะนำไปใช้ในโครงการขยายสถานีรับส่งแก๊ส LNG เฟส 2 ,โครงการพัฒนาท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุดเฟส3,โครงการเขตนวัตกรรมระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) พื้นที่วังจันทร์วัลเลย์ จ.ระยอง,โครงการท่อส่งก๊าซธรรมชาติเส้นที่ 5 เป็นต้น
สำหรับการลงทุนในช่วงไตรมาส 4 ของปี 2562 นี้ ปตท.ตั้งงบลงทุนไว้ 3 หมื่นล้านบาท เพื่อนำมาใช้ในการเพิ่มทุนให้กับบริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด(มหาชน) หรือGPSC ในการเข้าไปซื้อหุ้น บริษัท โกลว์ พลังงาน จำกัด (GLOW) 1.7 หมื่นล้านบาท , ใช้ในโครงการ ท่อส่งก๊าซธรรมชาติเส้นที่ 5 จำนวน 3,000 ล้านบาท ,การซ่อมท่อก๊าซฯเส้นที่ 1 จำนวน 1,000 ล้านบาท ,โครงการ ท่อส่งก๊าซธรรมชาติบนบก จากสถานีควบคุมความดันก๊าซฯ ราชบุรี-วังน้อยที่ 6 (RA6) ไปยังจังหวัดราชบุรี 645 ล้านบาทต่อปี ,โครงการเขตนวัตกรรมระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) พื้นที่วังจันทร์วัลเลย์ จ.ระยอง 400 ล้านบาท และอื่นๆ 4,000 ล้านบาท
สำหรับนโยบายที่รัฐบาลต้องการให้ ปตท.ร่วมมือในโครงการประชารัฐสร้างไทยนั้น ปัจจุบัน ปตท.มี 100 ปั๊ม ที่นำสินค้าชุมชนเข้ามาจำหน่ายในปั๊มแล้ว โดยมีเป้าหมายจะทำให้ครบ 300 แห่งต่อไป จากปัจจุบัน ปตท.มีปั๊มทั้งหมด 1,800 แห่ง และมีร้านคาเฟ่ อเมซอนประมาณ 2,000 แห่ง ดังนั้นหากสินค้าชุมชนใดโดดเด่น ปตท.อาจคัดเลือกให้นำไปจำหน่ายในปั๊มต่างๆ ของ ปตท.ที่มีทั้งในและต่างประเทศ
ส่วนแนวคิดของรัฐบาลที่ต้องการให้ ปตท.เข้าไปตั้งร้านคาเฟ่ อเมซอนในพื้นที่ชุมชนนั้น ปตท.จะนำไปศึกษาข้อมูลและวางรูปแบบร้านที่แตกต่างจากพื้นที่อื่น โดยจะสร้างเป็นรูปแบบการแบ่งปันพื้นที่สำนักงาน( Co-Working Space )ให้กับชุมชน และสามารถนำสินค้าชุมชนมาวางจำหน่ายในร้านได้