สนพ.เผยการรับซื้อไฟฟ้าจากขยะชุมชน ตามแผนพีดีพี2018 จำนวน 400 เมกะวัตต์ ควรต้องดำเนินการภายในปี2563 โดยกระทรวงมหาดไทย จะคัดเลือกรายชื่อผู้ประกอบการให้ กกพ. ออกประกาศรายชื่อเพื่อให้จ่ายไฟฟ้าเข้าระบบทันปี2565
นายวัฒนพงษ์ คุโรวาท ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน(สนพ.) เปิดเผยว่า ตามแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย พ.ศ.2561-2580 (PDP2018) โรงไฟฟ้าขยะชุมชนจะต้องเข้าระบบอีก 400 เมกะวัตต์ ในปี 2565 ดังนั้นหากจะเข้าระบบได้ทันจำเป็นต้องเปิดรับซื้อไฟฟ้าตั้งแต่ปี 2562-2563 นี้ ซึ่งตามขั้นตอนจะต้องให้กระทรวงมหาดไทยคัดเลือกรายชื่อผู้ประกอบการให้กับคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน(กกพ.)ดำเนินการพิจารณาและประกาศรายชื่อต่อไป ซึ่งคาดว่าจะเปิดรับซื้อครั้งเดียว 400 เมกะวัตต์
โดยคาดว่าอัตราเงินสนับสนุนตามต้นทุนที่แท้จริง(Feed in Tariff-FiT) สำหรับโรงไฟฟ้าขยะ 400 เมกะวัตต์ ที่จะเปิดรับซื้อใหม่นั้น อาจจะเป็นอัตราเดิม
สำหรับโรงไฟฟ้าขยะอุตสาหกรรม ที่ได้เปิดรับซื้อไปแล้ว 50 เมกะวัตต์ ตามแผน PDP2015 กำหนดจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบ(COD)ในเดือนธ.ค. 2562 นั้น ขณะนี้ยังไม่มีรายใดจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบ ซึ่งอาจจะเกิดจากติดปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม ทั้งนี้ผู้ประกอบการจะต้องหารือกับ กกพ. ว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไปหากผู้ประกอบการไม่สามารถจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบได้ทัน
นายพิชัย ถิ่นสันติสุข ประธานที่ปรึกษาสมาคมการค้าพลังงานขยะ กล่าวว่า ได้ทำหนังสือถึงคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน เพื่อเรียกร้องให้ปรับรูปแบบการเปิดรับซื้อไฟฟ้าขยะชุมชนและขยะอุตสาหกรรม ตามแผน PDP 2018 ใหม่ โดยขอให้เปิดรับซื้อทั้งขยะชุมชน 400 เมกะวัตต์ และขยะอุตสาหกรรม 44 เมกะวัตต์ เป็นช่วงเวลายาว ตั้งแต่ปี 2563 – 2580 ในรูปแบบใครพร้อมก่อนก็สามารถเข้าระบบได้ก่อนจนกว่าจะครบจำนวน โดยยังคงให้กระทรวงมหาดไทยกลั่นกรองผู้ร่วมโครงการสำหรับโรงไฟฟ้าขยะชุมชน ขณะที่กระทรวงอุตสาหกรรมกลั่นกรองผู้ร่วมโครงการ
นอกจากนี้ยังเรียกร้องให้กำหนดอัตราFiT รับซื้อไฟฟ้าขยะชุมชนและขยะอุตสาหกรรมในอัตราเดียวกัน จากปัจจุบันโรงไฟฟ้าขยะชุมชนได้รับ FiT อยู่ประมาณ 5.78 บาทต่อหน่วย และโรงไฟฟ้าขยะอุตสาหกรรมอยู่ที่ 6.78 บาทต่อหน่วย ซึ่งควรให้เป็นอัตราเดียวกันที่ 5.78 บาทต่อหน่วย เนื่องจากเห็นว่า 90% ของขยะอุตสาหกรรม ไม่ใช่ขยะอันตราย แต่ในส่วนของขยะอันตรายจริงควรให้ค่า Fit ที่สูงกว่าเพราะต้องผ่านกระบวนการจำกัดขยะแบบพิเศษ