“สนธิรัตน์” เร่งเครื่อง นัดข้าราชการกระทรวงพลังงานและผู้บริหารระดับสูงรัฐวิสาหกิจทั้ง กฟผ. ปตท. ถกประเด็นนโยบายพลังงานวันหยุด ก่อนนัดหมายปลัดกระทรวง”กุลิศ”คุยต่ออีกในวันจันทร์ หวังมีแผนและผลงานระยะสั้นช่วง3เดือนแรก โดยยืนยันเดินหน้าส่งเสริมพลังงานหมุนเวียนและทบทวนการช่วยเหลือด้านพลังงานแก่ผู้มีรายได้น้อยผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ให้เข้าถึงประชาชนได้มากขึ้น พร้อมเปิดทางให้มีการผลิตและขายพลังงานในระดับชุมชนได้ในอนาคต
วันเสาร์ที่ 20 ก.ค.2562 นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ได้เรียกประชุมข้าราชการระดับสูงของแต่ละหน่วยงานในกระทรวงพลังงาน นำโดยนายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน พร้อมด้วยผู้บริหารรัฐวิสาหกิจในกำกับดูแล ทั้งการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.)และปตท. เพื่อระดมความคิดเห็นในประเด็นพลังงานทั้งด้านไฟฟ้า ก๊าซธรรมชาติ น้ำมันเชื้อเพลิง พลังงานทดแทน และอนุรักษ์พลังงาน โดยได้หารือถึงนโยบายสำคัญที่จะต้องเร่งผลักดัน รวมถึงข้อจำกัด และอุปสรรคต่างๆ ในการดำเนินการ เพื่อให้การดำเนินการด้านพลังงานเดินหน้าต่อไปได้อย่างต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพ เกิดประโยชน์ต่อประชาชน
โดยภายหลังการประชุม นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่าได้นัดหมายที่จะหารือกันต่อกับนายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงานในวันจันทร์ที่ 22 ก.ค. 2562 นี้ เพื่อกำหนดเรื่องเร่งด่วนด้านพลังงานที่ต้องดำเนินการอย่างเร็วที่สุด โดยต้องการที่จะให้มีการจัดทำกรอบการดำเนินงานด้านพลังงานระยะเร่งด่วน 3 เดือน (ส.ค.-ต.ค. 2562) ให้ผู้ที่เกี่ยวข้องสามารถนำไปปฏิบัติได้
สำหรับการประชุมหารือในวันนี้ได้ข้อสรุปร่วมกันว่า ทุกหน่วยงานของกระทรวงพลังงาน จะบูรณาการทำงานร่วมกัน โดยดูผลประโยชน์ของประเทศเป็นที่ตั้ง ซึ่ง ปตท.เสนอ ให้เดินหน้าส่งเสริมเชื้อเพลิงชีวภาพทั้งไบโอดีเซลจากปาล์มน้ำมัน แก๊สโซฮอล์จากเอทานอล เพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้ภาคเกษตรกรไทย
รวมทั้งการกำหนดทิศทางในอนาคตให้ไทยเป็นผู้บริหารพลังงานในภูมิภาคอาเซียน
นายสนธิรัตน์ ยังยืนยันว่าจะมีการทบทวนมาตรการช่วยเหลือกลุ่มผู้มีรายได้น้อยด้านพลังงานภายใต้บัตรสวัสดิการแห่งรัฐใหม่ทั้งหมด เพื่อให้เข้าถึงได้มากขึ้นโดยในระยะยาว กลไกด้านพลังงาน นอกจากจะเข้าไปช่วยลดค่าใช้จ่ายประชาชนแล้ว ยังจะต้องทำให้ประชาชนสามารถเข้าถึงพลังงานทางเลือกได้มากขึ้น จนสามารถทำพลังงานใช้เองและขายเพื่อเป็นรายได้ในที่สุด
โดยในวันที่ 25 ก.ค. 2562 นี้รัฐบาลจะแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ซึ่งด้านเศรษฐกิจมีแผนระยะสั้น 1 ปี และแผนระยะยาว 4 ปี ที่จะช่วยแก้ปัญหาปากท้องของประชาชน และการแก้ปัญหาวิฤติเศรษฐกิจทั้งระยะสั้นและยาว โดยการรับฟังความเห็นด้านพลังงานในครั้งนี้หากพิจารณาพบว่าสิ่งใดที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนและประเทศ ก็จะนำไปปรับเพิ่มในนโยบายที่จะแถลงต่อรัฐสภาด้วย