“วชิรแล็บเพื่อสังคม” จากความร่วมมือของ IRPC และ วชิรพยาบาล ก้าวสู่มาตรฐานระดับชาติ ได้การรับรอง มอก. สาขาการทดสอบวัสดุและอุปกรณ์ทางการแพทย์

78
- Advertisment-

นายอนุชา สมจิตรชอบ กรรมการผู้จัดการ บริษัท “วชิรแล็บเพื่อสังคม” จำกัด (วชิรแล็บ) ห้องปฏิบัติการเอกชนแห่งแรกในประเทศไทยที่ได้ใบรับรองความสามารถห้องปฏิบัติการตามมาตรฐาน มอก. 17025-2561 (ISO/IEC 17025: 2017) สาขาการทดสอบวัสดุและอุปกรณ์ทางการแพทย์ ในขอบข่ายหน้ากากอนามัยใช้ครั้งเดียวและหน้ากากใช้ครั้งเดียวชนิด N95 โดยมีนายวันชัย พนมชัย รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม รักษาราชการแทนเลขาธิการสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม เป็นประธานในพิธีมอบ และ รศ.นพ.อนันต์ มโนมัยพิบูลย์ อธิการบดี มหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช ร่วมแสดงความยินดี ณ ห้องประชุม 200 อาคารสำนักงานมาตรฐาน ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.)

บริษัท วชิรแล็บเพื่อสังคม จำกัด (วชิรแล็บ) ก่อตั้งขึ้นจากความร่วมมือระหว่างคณะแพทยศาสตร์วชิรพยาบาล มหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช และ บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) (IRPC) ที่ผสานความรู้ทางวิชาการของบุคลากรทางการแพทย์และผู้ประกอบการอุตสาหกรรม ด้านวัสดุอุปกรณ์ทางการแพทย์ในประเทศในรูปแบบวิสาหกิจเพื่อสังคม (Social Enterprise) เพื่อให้บริการวิเคราะห์ ทดสอบ แบบครบวงจร (one-stop-service laboratory) ด้วยเครื่องมืออุปกรณ์ที่ทันสมัยในการทดสอบคุณสมบัติสำคัญ ที่สามารถบ่งชี้ถึงคุณภาพของผลิตภัณฑ์ได้อย่างแม่นยำ และรับรองมาตรฐานผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ในระดับสากล เช่น ชุดอุปกรณ์เพาะเลี้ยง เครื่องตรวจนับเชื้อแบคทีเรียแบบอัตโนมัติ เครื่องทดสอบประสิทธิภาพการกรองเชื้อแบคทีเรีย  (Bacteria filtration efficiency: BFE) เครื่องวัดการไหลผ่านของอากาศ (Breathability)

จากการที่ “วชิรแล็บ” ได้รับการรับรองความสามารถห้องปฏิบัติการตามมาตรฐาน มอก. 17025-2561 (ISO/IEC   17025: 2017) หมายเลขการรับรองที่ ทดสอบ 1669 สาขาการทดสอบวัสดุและอุปกรณ์ทางการแพทย์ ในขอบข่ายหน้ากากอนามัยใช้ครั้งเดียวและหน้ากากใช้ครั้งเดียวชนิด N95 ลดความเสี่ยงการติดเชื้อทางการแพทย์ ตามใบรับรองเลขที่ 23-LB0032  เป็นความก้าวหน้าที่สำคัญในการพัฒนาการแพทย์ของประเทศไทย ที่แสดงถึงความเชื่อมั่นในคุณภาพมาตรฐานของห้องปฏิบัติการตรวจสอบมาตรฐานผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์เครื่องมือและวัสดุทางการแพทย์ ของ “วชิรแล็บ” เพื่อยกระดับพัฒนาศักยภาพ เสริมสร้างความแข็งแกร่งและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับผู้ประกอบการผลิตภัณฑ์หน้ากากอนามัยของประเทศไทย โดยไม่ต้องส่งผลิตภัณฑ์ไปทำการตรวจสอบยังต่างประเทศ ทำให้ประชาชนคนไทยได้ใช้หน้ากากอนามัย ซึ่งเป็นวัสดุและอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่มีมาตรฐานสูงและปลอดภัย

- Advertisment -
Advertisment