พีคไฟฟ้าปี 2567 พุ่งไม่หยุด เกิดยอดใช้ไฟฟ้าสูงสุดต่อเนื่อง 2 วันติดต่อกัน ล่าสุด 2 เม.ย. 2567 ที่ผ่านมา เกิดพีคไฟฟ้าอีกครั้ง ช่วงกลางคืนเวลา 20.51 น. ทำสถิติการใช้ไฟฟ้าถึง 33,827 เมกะวัตต์ เข้าใกล้พีคไฟฟ้าประเทศเมื่อปี 2566 ระดับ 34,827 เมกะวัตต์ พลังงานคาด เม.ย. 2567 อาจทะลุ 35,000 เมกะวัตต์ ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ได้ หากร้อนต่อเนื่อง ยืนยันสำรองไฟฟ้าที่มีเกินกว่า 30% จะช่วยรักษาเสถียรภาพไฟฟ้าประเทศหน้าร้อนได้
ผู้สื่อข่าวศูนย์ข่าวพลังงาน (Energy News Center – ENC) รายงานว่า หลังจากเกิดยอดการใช้ไฟฟ้าสูงสุด (พีค) ของปี 2567 รอบที่ 3 ไปเมื่อวันที่ 1 เม.ย. 2567 ที่ผ่านมา ปรากฎว่าในวันที่ 2 เม.ย. 2567 ได้เกิดพีคไฟฟ้ารอบที่ 4 ของปี 2567 ขึ้นทันที ท่ามกลางสภาพอากาศที่ร้อนสะสมต่อเนื่องหลายวัน โดยพีคไฟฟ้าเกิดขึ้นในช่วงกลางคืนเวลา 20.51 น. มียอดการใช้ไฟฟ้าถึง 33,827 เมกะวัตต์
โดยพีคไฟฟ้าดังกล่าวขยับเข้าใกล้สถิติการเกิดพีคไฟฟ้าสูงสุดของประเทศที่เกิดขึ้นเมื่อปี 2566 ซึ่งมียอดใช้ไฟฟ้าอยู่ที่ 34,827 เมกะวัตต์ เมื่อวันที่ 6 พ.ค. 2566 เวลา 21.41 น. โดยหากอากาศยังร้อนสะสมต่อเนื่องอาจมีโอกาสที่ยอดการใช้ไฟฟ้าจะทะลุ 35,000 เมกะวัตต์ ตามคาดการณ์ของสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) ได้
สำหรับพีคไฟฟ้าปี 2567 เกิดขึ้นดังนี้
ครั้งที่ 1 เมื่อวันที่ 22 ก.พ. 2567 เวลา 19.24 น. ยอดพีคไฟฟ้าอยู่ที่ 30,989 เมกะวัตต์
ครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 7 มี.ค. 2567 เวลา 19.47 น. มียอดพีคไฟฟ้าอยู่ที่ 32,704 เมกะวัตต์
ครั้งที่ 3 เมื่อวันที่ 1 เม.ย. 2567 เวลา 21.00 น. ยอดพีคไฟฟ้าอยู่ที่ 33,340 เมกะวัตต์
ครั้งที่ 4 เมื่อวันที่ 2 เม.ย. 2567 เวลา 20.51 น. ยอดพีคไฟฟ้าอยู่ที่ 33,827 เมกะวัตต์
ส่วนสถิติยอดการใช้ไฟฟ้าในแต่ละเดือน นับตั้งแต่เดือน ม.ค.- เม.ย. 2567 มีแนวโน้มปรับสูงขึ้นต่อเนื่อง ดังนี้
เดือน ม.ค. 2567 มียอดพีคไฟฟ้าเกิดขึ้นในวันที่ 11 ม.ค. 2567 เวลา 18.52 น. ยอดใช้ไฟฟ้าอยู่ที่ 29,051 เมกะวัตต์
เดือน ก.พ. 2567 มียอดพีคไฟฟ้าเกิดขึ้นในวันที่ 22 ก.พ. 2567 เวลา 19.29 น. ยอดใช้ไฟฟ้าอยู่ที่ 30,989 เมกะวัตต์
เดือน มี.ค. 2567 มียอดพีคไฟฟ้าเกิดขึ้นในวันที่ 7 มี.ค. 2567 เวลา 19.47 น. ยอดใช้ไฟฟ้าอยู่ที่ 32,704 เมกะวัตต์
เดือน เม.ย. 2567 มียอดพีคไฟฟ้าเกิดขึ้นในวันที่ 2 เม.ย. 2567 เวลา 20.51 น. ยอดใช้ไฟฟ้าอยู่ที่ 33,827 เมกะวัตต์
อย่างไรก็ตามหากเกิดพีคไฟฟ้าทะลุ 35,000 เมกะวัตต์ ตามที่ สนพ. ได้คาดการณ์ไว้ ก็จะไม่ส่งผลกระทบให้เกิดไฟฟ้าตก-ดับ แต่อย่างใด เนื่องจากปัจจุบันประเทศไทยมีสำรองไฟฟ้าเกินกว่า 30% ของปริมาณการใช้ไฟฟ้าของประเทศ โดยมีการผลิตไฟฟ้าตามสัญญาอยู่ถึง 53,852 เมกะวัตต์
แต่การเกิดพีคไฟฟ้าจะส่งผลให้ประชาชนต้องจ่ายค่าไฟฟ้าเพิ่มขึ้นตามปริมาณการใช้ไฟฟ้า และจะส่งผลให้ไทยต้องนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) มาผลิตไฟฟ้ามากขึ้น ทำให้ไทยต้องเสียเงินซื้อ LNG เข้ามามากขึ้นด้วย ขณะที่ค่าไฟฟ้าในประเทศ ภาครัฐยังคงช่วยพยุงราคาค่าไฟฟ้าไว้ โดยตรึงค่าไฟฟ้าไว้ที่ 4.18 บาทต่อหน่วย โดยให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) แบกรับภาระต้นทุนค่าไฟฟ้าแทนประชาชนไปก่อน จนปัจจุบันประชาชนเป็นหนี้ กฟผ. อยู่ 99,689 ล้านบาท ดังนั้นภาครัฐจึงรณรงค์ขอความร่วมมือประชาชนช่วยกันประหยัดไฟฟ้าที่ไม่จำเป็นในช่วงนี้
สำหรับการใช้ไฟฟ้าล่าสุด วันที่ 3 เม.ย. 2567 เวลา 14.46 น. มียอดการใช้ไฟฟ้าแตะ 32,192 เมกะวัตต์ ซึ่งยังมีโอกาสเกิดพีคไฟฟ้าของปี 2567 รอบที่ 5 ขึ้นได้ และอาจทำลายสถิติพีคไฟฟ้าสูงสุดเป็นประวัติการณ์ของประเทศได้เช่นกันหากสภาพอากาศยังร้อนอบอ้าวต่อเนื่องในเดือน เม.ย. 2567 นี้
