บริษัท ราช กรุ๊ป จำกัด(มหาชน) กำลังเจรจาดึงพันธมิตรเข้าร่วมลงทุน ในโรงไฟฟ้าภาคตะวันตก 1,400เมกะวัตต์ โดยบริษัทจะเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ คาดเริ่มก่อสร้างได้ในปี2564 และจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ทันตามกำหนดในปี 2567และ2568
นายกิจจา ศรีพัฑฒางกุระ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ราช กรุ๊ป จำกัด(มหาชน) หรือ RATCH เปิดเผยว่า บริษัทอยู่ในระหว่างการเจรจากับพันธมิตรเพื่อเปิดทางให้เข้ามาร่วมลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าภาคตะวันตก 2โรง กำลังการผลิตรวม1,400 เมกะวัตต์ โดยที่บริษัทจะเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ ซึ่งการดึงพันธมิตรเข้ามาร่วมทุนในโครงการก็เพื่อสร้างความแข็งแกร่งเพิ่มขึ้นในธุรกิจผลิตไฟฟ้า
โดยโครงการโรงไฟฟ้าภาคตะวันตกทั้ง2แห่ง จะดำเนินการภายใต้บริษัทลูกคือ หินกอง เพาเวอร์ ที่ RATCH ถือหุ้นทั้ง100% ซึ่งคาดว่าจะเริ่มต้นก่อสร้างได้ในปี 2564 และจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบในปี 2567จำนวน700เมกะวัตต์ และ ปี 2568 อีกจำนวน700เมกะวัตต์ คาดว่าจะใช้เงินลงทุน เมกะวัตต์ละประมาณ 5แสนเหรียญสหรัฐ
นายกิจจา กล่าวว่า โครงการดังกล่าวได้มีการลงนามในสัญญาซื้อขายไฟฟ้าแล้ว เมื่อวันที่ 12 ก.ค.2562 ที่ผ่านมา โดยเป็นการดำเนินการตามขั้นตอนปกติ ไม่ได้เร่งรัดแต่อย่างใด เพราะใช้เวลา 7 เดือน หลังจากที่คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) เห็นชอบตั้งแต่เดือน ม.ค. 2562 ส่วนประเด็นที่อาจจะถูกสั่งทบทวนหรือไม่นั้น ถือเป็นเรื่องของนโยบาย
ทั้งนี้ การดำเนินโครงการโรงไฟฟ้าภาคตะวันตก 1,400เมกะวัตต์ นั้น เป็นไปตามนโยบายที่ต้องเร่งก่อสร้าง เพื่อส่งไฟฟ้าไปภาคใต้ที่จะมีปัญหาไฟฟ้าไม่เพียงพอ เนื่องจากโรงไฟฟ้าใหม่ในภาคใต้ตามแผนพัฒนาไฟฟ้าระยะยาวของประเทศ(PDP 2018 ) จะเกิดขึ้นได้ต้องรอถึงปี 2570 นอกจากนี้ อัตราค่าไฟฟ้าที่ บริษัทเสนอ ก็เป็นอัตราที่ต่ำกว่า ผู้ผลิตไฟฟ้าไอพีพี ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อประชาชน
ในส่วนของเชื้อเพลิง ก๊าซธรรมชาติ ที่จะป้อนให้กับโรงไฟฟ้าภาคตะวันตกนั้น บริษัท อยู่ระหว่างเจรจาเพื่อทำสัญญาซื้อขายก๊าซฯกับปตท. คาดว่าจะใช้ก๊าซ ในปริมาณ 220-240 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน หรือคิดเทียบเป็นก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG)ประมาณ 1.4-1.5 ล้านตันต่อปี