หน่วยธุรกิจการค้าระหว่างประเทศ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) รายงานสถานการณ์ตลาดน้ำมันประจำสัปดาห์วันที่ 6 – 10 ม.ค. 68 และแนวโน้มในสัปดาห์วันที่ 13 – 17 ม.ค. 68 ว่า ราคาน้ำมันดิบเฉลี่ยรายสัปดาห์เพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบเกือบ 3 เดือน หลังสหรัฐฯ ประกาศคว่ำบาตรบริษัทพลังงานของรัสเซีย
วันที่ 11 ม.ค. 68 กระทรวงการคลังสหรัฐฯ ประกาศคว่ำบาตรบริษัทพลังงานรายใหญ่ของรัสเซียรวมทั้งบริษัทในเครือ ได้แก่ บริษัท Gazprom Neft และ บริษัท Surgutneftegas ที่ทำธุรกิจน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ รวมทั้งเรือบรรทุกน้ำมัน 183 ลำ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกองเรือเงา (Shadow Fleet) ที่ใช้ส่งออกน้ำมันรัสเซียภายใต้การประกันภัยของบริษัท Ingosstrakh ของรัสเซีย แทนบริษัทชาติตะวันตก นอกจากนี้ ยังคว่ำบาตรเจ้าหน้าที่และผู้บริหารด้านพลังงานของรัสเซียกว่า 12 ราย รวมทั้ง CEO ของบริษัท Gazprom Neft นาย Aleksandr Valeryevich Dyukov ทั้งนี้ สหรัฐฯ มีมาตรการคว่ำบาตรเรือที่ขนส่งน้ำมันดิบจากรัสเซีย อิหร่าน และ เวเนซุเอลา
ขณะเดียวกัน บริษัท Shandong Port Group ของจีนประกาศห้ามเรือบรรทุกสินค้าที่ถูกสหรัฐฯ คว่ำบาตรเข้าเทียบท่าเรือที่ทางบริษัทดำเนินการ อาทิ Qingdao Rizhao และ Yantai โดยมณฑล Shandong นำเข้าน้ำมันดิบจากรัสเซีย อิหร่าน และเวเนซุเอลา ในปี 2567 อยู่ที่ 1.74 ล้านบาร์เรลต่อวัน คิดเป็น 17% ของปริมาณน้ำมันดิบที่จีนนำเข้าทั้งหมด
ด้านนักวิเคราะห์ของ JPMorgan คาดการณ์ว่าความต้องการใช้น้ำมันทั่วโลกในเดือน ม.ค. 68 จะเพิ่มขึ้น 1.4 ล้านบาร์เรลต่อวัน จากปีก่อนหน้า อยู่ที่ 101.4 ล้านบาร์เรลต่อวัน (+0.6 ล้านบาร์เรลต่อวัน จากคาดการณ์ครั้งก่อน) โดยมีปัจจัยหลักจากการใช้เชื้อเพลิงเพื่อทำความอบอุ่น (Heating demand) ที่เพิ่มขึ้นเนื่องจากฤดูหนาวที่หนาวกว่าปกติ และการเดินทางท่องเที่ยวช่วงตรุษจีนในเดือน ม.ค. 68
ตลาดคาดว่าธนาคารกลางสหรัฐ (Federal Reserve: Fed) จะไม่จำเป็นต้องเร่งลดอัตราดอกเบี้ย (ในปัจจุบันที่ 4.25-4.50%) ภายหลังกระทรวงแรงงานสหรัฐฯ รายงานว่ายอดการจ้างงานนอกภาคเกษตร (Nonfarm Payrolls) ในเดือน ธ.ค. 67 เพิ่มขึ้น 256,000 ราย จากเดือนก่อนหน้า ขณะที่อัตราการว่างงาน (Unemployment Rate) ลดลง 0.1% จากเดือนก่อนหน้า อยู่ที่ 4.1%