ราคาน้ำมันดิบผันผวน สถานการณ์ในตะวันออกกลางยังคงตึงเครียด

166
- Advertisment-

หน่วยธุรกิจการค้าระหว่างประเทศ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) รายงานสถานการณ์ตลาดน้ำมันประจำสัปดาห์วันที่ 23 – 27 ก.ย. 2567 และแนวโน้มในสัปดาห์วันที่ 30 ก.ย. – 4 ต.ค. 2567 โดยระบุว่าราคาน้ำมันดิบมีความผันผวน เหตุจากสถานการณ์ในตะวันออกกลางยังคงตึงเครียด

ความขัดแย้งในตะวันออกกลางขยายวงกว้าง โดยเมื่อวันที่ 29 ก.ย. 2567 ที่ผ่านมา เครื่องบินรบของอิสราเอลทิ้งระเบิดท่าเรือ Hodeidah ในเยเมน เพื่อตอบโต้กองกำลังของกลุ่ม Houthi ที่โจมตีอิสราเอลด้วยขีปนาวุธอย่างต่อเนื่องหลังจากการสังหารผู้นำกลุ่ม Hezbollah นาย Sayyed Hassan Nasrallah โดยการโจมตีทางอากาศในกรุง Beirut ทั้งนี้ จำนวนผู้เสียชีวิตสะสมในเลบานอนตั้งแต่วันที่ 16 ก.ย. 2567 เพิ่มขึ้นมากกว่า 1,000 ราย

ในด้านอุปทาน Financial Times คาดการณ์ว่าสมาชิก OPEC+ จำนวน 8 ประเทศ จะคงแผนเพิ่มปริมาณการผลิตน้ำมันดิบ 180,000 บาร์เรลต่อวัน ในเดือน ธ.ค. 2567 โดยเฉพาะซาอุดีอาระเบียซึ่งคาดว่าจะผลิตและส่งออกมากขึ้นเพื่อรักษาส่วนแบ่งการตลาด (Market Share) โดยล่าสุด Joint Organizations Data Initiative (JODI) รายงานว่าปริมาณการผลิตและส่งออกน้ำมันดิบของซาอุดีอาระเบียในเดือน ก.ค. 2567 อยู่ที่ 8.94 ล้านบาร์เรลต่อวัน และ 5.74 ล้านบาร์เรลต่อวัน ตามลำดับ

- Advertisment -

วันที่ 25 ก.ย. 2567 United Nations Libya mission (UNSMIL) เผยว่าคณะผู้แทนจากรัฐบาลกลางและกองกำลัง Libyan National Army (LNA) เห็นชอบในกระบวนการแต่งตั้งผู้ว่าการ รองผู้ว่าการ และคณะกรรมการบริหารชุดใหม่ของธนาคารกลางลิเบีย ซึ่งส่งผลให้ความขัดแย้งยุติลง และการผลิตน้ำมันในประเทศกลับมาดำเนินการตามปกติ โดย Energy Aspects คาดการณ์ว่าลิเบียจะผลิตน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นจากระดับปัจจุบันที่ 600,000 บาร์เรลต่อวัน มาอยู่ที่ 1.1 – 1.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน ภายใน 7 – 10 วัน หากกองกำลัง LNA ยกเลิกการปิดแหล่งผลิตน้ำมัน

ในวันที่ 26 ก.ย. 2567 ธนาคารกลางจีน (People’s Bank of China: PBOC) ประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยและอัดฉีดสภาพคล่องเข้าสู่ระบบธนาคาร นับเป็นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา โดยมุ่งเป้าไปที่การฟื้นฟูภาคอสังหาริมทรัพย์ ด้านการเงิน และตลาดหุ้น ขณะที่กระทรวงการคลังและกระทรวงกิจการพลเรือนจะออกเงินอุดหนุนค่าครองชีพในรูปแบบการแจกเงินสดครั้งเดียวให้แก่กลุ่มคนที่ยากจนมากที่สุด ได้แก่ คนไร้บ้านและเด็กกำพร้า ในวันที่ 1 ต.ค. 2567 ซึ่งตรงกับวันชาติจีน และใช้มาตรการทางการคลังร่วมกระตุ้นเศรษฐกิจในครั้งนี้ด้วย

Advertisment