รัฐปล่อยค่าการตลาดดีเซลผู้ค้าน้ำมันสูงต่อเนื่อง โดยวันที่ 14 มี.ค.65 อยู่ที่ระดับ 5.58 บาทต่อลิตร เพิ่มขึ้นจากวันที่ 11 มี.ค.65 ที่อยู่ที่ระดับ 3.46 บาทต่อลิตร โดยปรับอัตราการชดเชยจากกองทุนน้ำมันลงจาก14.01 บาทต่อลิตรเหลือ 11.95 บาทต่อลิตร ในขณะที่กลุ่มผู้ใช้เบนซินและแก๊สโซฮอล์ ยังคงแบกภาระหนักอึ้งเหมือนเดิมแม้ราคาน้ำมันในตลาดโลกจะปรับลดลง
ผู้สื่อข่าวศูนย์ข่าวพลังงาน ( Energy NewsCenter- ENC ) อัพเดทโครงสร้างราคาน้ำมันวันที่ 14 มี.ค.2565 โดยใช้โครงสร้างราคาอ้างอิงที่จัดทำโดยสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน หรือ สนพ. ซึ่งชี้ให้เห็นว่า ผู้ค้าน้ำมันได้รับค่าการตลาดดีเซลในระดับที่สูงขึ้นมาก โดยค่าการตลาดน้ำมัน หรือ Marketing Margin ณ วันที่ 14 มี.ค. 2565 สูงถึง 5.58 บาทต่อลิตร เพิ่มขึ้นจากวันที่ 11 มี.ค. 2565 ที่อยู่ที่ ระดับ 3.46 บาทต่อลิตร จากเดิมที่รัฐขอความร่วมมือให้ผู้ค้าน้ำมันควบคุมค่าการตลาดดีเซลให้อยู่ที่ระดับ 1.40 บาท ต่อลิตร
ทั้งนี้การที่รัฐยอมให้ค่าการตลาดดีเซลสูงขึ้นเกินกว่าที่เคยขอความร่วมมือ นั้น เนื่องจาก ในช่วงที่ราคาน้ำมันมีความผันผวนในระดับสูง แต่ผู้ค้าไม่ได้มีการปรับขึ้นราคาขายปลีกดีเซล ตามต้นทุนจริง โดยยังรักษาระดับราคาไว้ไม่เกิน 30 บาทต่อลิตร ( เฉพาะโออาร์และบางจาก ) ทำให้ค่าการตาดดีเซลอยู่ในระดับที่ต่ำกว่า 1.40 บาทต่อลิตรติดต่อกันหลายวันและบางช่วง โดยเฉพาะวันที่ 8 มี.ค.65 นั้น ผู้ค้าน้ำมันมีค่าการตลาดดีเซล ที่ติดลบ 1.70 บาทต่อลิตร และวันที่ 10 มี.ค. ก็ติดลบ 1.31 บาทต่อลิตร ทำให้เมื่อระดับราคาน้ำมันดีเซลที่ตลาดสิงคโปร์ปรับลดลงในช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา รัฐจึงปล่อยให้ผู้ค้าน้ำมันได้รับค่าการตลาดที่สูง ในขณะเดียวกัน ก็ปรับลดอัตราการชดเชยจากกองทุนน้ำมันลงจาก14.01 บาทต่อลิตรในวันที่ 11 มี.ค.65 ลงเหลือ 11.95 บาทต่อลิตรในวันที่ 14 มี.ค.65 แต่ก็ยังถือว่าเป็นการชดเชยในระดับที่สูง
โดยหากคิดที่อัตราการใช้ดีเซลB7ตามตัวเลขเฉลี่ยเดือน มี.ค.65 ของกรมธุรกิจพลังงานที่ 62.6 ล้านลิตรต่อวัน กองทุนน้ำมันยังคงจ่ายเงินชดเชยราคาดีเซลมากถึง 744 ล้านบาทต่อวัน
ในขณะที่ราคากลุ่มเบนซินและแก๊สโซฮอล์แม้ว่าราคาน้ำมันเบนซินในตลาดสิงคโปร์ปรับลดราคาลง แต่ราคาขายปลีกของวันที่ 14 มี.ค. 65 ยังไม่ได้มีการปรับราคาลดลง โดย แก๊สโซฮอล์ 95 ยังอยู่ที่ราคา 40.15 บาทต่อลิตร และ แก๊สโซฮอล์ 91 อยู่ที่ 39.88 บาทต่อลิตร ซึ่งค่าการตลาดของแก๊สโซฮอล์ 95 อยู่ที่ 2.87 บาทต่อลิตรเพิ่มขึ้นจากวันที่ 11 มี.ค.ที่อยู่ระดับ 1.04 บาทต่อลิตร และของแก๊สโซฮอล์ 91 อยู่ที่ 3.03 บาทต่อลิตร เพิ่มขึ้นจาก วันที่ 11 มี.ค. ที่อยู่ที่ 1.19 บาทต่อลิตร
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า เป็นที่น่าสังเกตว่า หลังจากที่มีการปล่อยให้ผู้ค้าน้ำมันได้รับค่าการตลาดดีเซลที่สูง ทำให้ผู้ค้าแบรนด์ต่างประเทศที่เคยปรับราคาดีเซลเกิน30 บาทต่อลิตรและบางแบรนด์ สูงถึง 34 บาทต่อลิตร มีการปรับลดราคาขายปลีกลงมา เหลือ 29.94 บาทต่อลิตร เท่ากับ โออาร์ และบางจากแล้ว
อย่างไรก็ตามเมื่อเปรียบเทียบราคาหน้าโรงกลั่นและราคาขายปลีกหน้าปั๊ม สำหรับราคาวันที่ 14 มี.ค.65 พบว่า ผู้ใช้น้ำมันเบนซินและแก๊สโซฮอล์ยังคงแบกภาระหนักเพื่อให้รัฐสามารถตรึงราคาดีเซลไม่เกิน 30 บาทต่อลิตรเอาไว้ได้ โดยยกตัวอย่างกรณี
แก๊สโซฮอล์91 มีราคาหน้าโรงกลั่นที่ 26.7 บาท/ลิตร
แต่ราคาหน้าปั๊มอยู่ที่ 39.88 บาท/ลิตร หรือแพงขึ้น 13.1 บาท
ส่วน ดีเซลB7 มีราคาหน้าโรงกลั่นที่ 30.8 บาท/ลิตร แต่
หน้าปั๊มอยู่ที่ 29.94 บาท/ลิตร หรือถูกลง 0.9 บาท/ลิตร
ทำให้เห็นว่า ผู้ใช้แก๊สโซฮอล์91 นั้นเสียเปรียบผู้ใช้ดีเซลถึง 14 บาทต่อลิตร