ยอดการใช้น้ำมันในช่วง 11 เดือนของปี 2565 เติบโตทุกกลุ่ม 14.7 % โดย ดีเซลโต 17.4 % จากนโยบายตรึงราคาของภาครัฐ น้ำมันอากาศยานโต 90 % จากการผ่อนคลายมาตรการควบคุมการเดินทางระหว่างประเทศ รวมถึงมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวของภาครัฐ ในขณะที่มูลค่าการนำเข้าน้ำมันดิบอยู่ที่ 106,316 ล้านบาทต่อเดือน เพิ่มขึ้น 83.2 %
นางสาวนันธิกา ทังสุพานิช อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน เปิดเผยภาพรวมการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ยเดือนมกราคม – พฤศจิกายน 2565 อยู่ที่ 150.35 ล้านลิตร/วัน เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 14.7 โดยการใช้กลุ่มดีเซลเพิ่มขึ้นร้อยละ 17.4 น้ำมันอากาศยานเชิงพาณิชย์ (Jet A1) เพิ่มขึ้นร้อยละ 90.0 น้ำมันเตาเพิ่มขึ้นร้อยละ 17.6 LPG เพิ่มขึ้นร้อยละ 7.1 และการใช้ NGV เพิ่มขึ้นร้อยละ 9.3 การใช้กลุ่มเบนซินเพิ่มขึ้นร้อยละ 4.6 ขณะที่การใช้น้ำมันก๊าดลดลงร้อยละ 12.9
ทั้งนี้ ภาพรวมความต้องการใช้น้ำมันที่เพิ่มขึ้นเป็นผลมาจากที่หลายองค์กรทั้งภาครัฐและเอกชนกลับมาทำงานตามปกติที่สำนักงาน รวมถึงการเปิดการเรียนการสอนที่สถานศึกษาตามปกติ รวมทั้งการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวที่มีจำนวนนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าไทยอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยว ส่งผลให้ปริมาณความต้องการใช้น้ำมันมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น
การใช้น้ำมันกลุ่มเบนซินเดือนมกราคม – พฤศจิกายน 2565 เฉลี่ยอยู่ที่ 29.92 ล้านลิตร/วัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 4.6 สำหรับการใช้แก๊สโซฮอล์ 91 แก๊สโซฮอล์ 95 และแก๊สโซฮอล์ อี85 เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 6.98 ล้านลิตร/วัน 16.08 ล้านลิตร/วัน และ 0.86 ล้านลิตร/วัน ตามลำดับ ขณะที่การใช้แก๊สโซฮอล์ อี20 และเบนซินลดลงมาอยู่ที่ 5.47 ล้านลิตร/วัน และ 0.53 ล้านลิตร/วัน ตามลำดับ
การใช้น้ำมันกลุ่มดีเซลเดือนมกราคม – พฤศจิกายน 2565 เฉลี่ยอยู่ที่ 72.60 ล้านลิตร/วัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 17.4 เป็นผลจากมาตรการช่วยเหลือของภาครัฐโดยตรึงราคาให้ไม่เกิน 35 บาท/ลิตร มาตรการลดอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลจนถึงวันที่ 20 มกราคม 2566 และการใช้กลไกกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนและภาคธุรกิจ ภายใต้สถานการณ์ราคาพลังงานที่ยังคงผันผวนทั่วโลก สำหรับน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว บี7 การใช้เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 63.51 ล้านลิตร/วัน และน้ำมันดีเซลพื้นฐานเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 6.21 ล้านลิตร/วัน ขณะที่น้ำมันดีเซลหมุนเร็วธรรมดาปริมาณการใช้ลดลงมาอยู่ที่ 2.37 ล้านลิตร/วัน และน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว บี20 มีปริมาณการใช้ 0.19 ล้านลิตร/วัน
สำหรับการใช้น้ำมันกลุ่มดีเซลเดือนพฤศจิกายน 2565 เฉลี่ยอยู่ที่ 76.67 ล้านลิตร/วัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 6.7 โดยการใช้น้ำมันดีเซลในภาคไฟฟ้ามีปริมาณการใช้อยู่ที่ 6.45 ล้านลิตร/วัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 55.8 เป็นผลจากการนำไปผลิตไฟฟ้าทดแทนก๊าซธรรมชาติที่มีราคาสูง
การใช้น้ำมันอากาศยานเชิงพาณิชย์ (Jet A1) เดือนมกราคม – พฤศจิกายน 2565 เฉลี่ยอยู่ที่ 8.51 ล้านลิตร/วัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 90.0 เนื่องจากการผ่อนคลายมาตรการควบคุมการเดินทางระหว่างประเทศ รวมถึงมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวของภาครัฐ และการเปิดประเทศแบบเต็มรูปแบบตั้งแต่ 1 กรกฎาคม 2565 ส่งผลให้ภาคการท่องเที่ยวฟื้นตัวอย่างชัดเจนจากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
การใช้ LPG เดือนมกราคม – พฤศจิกายน 2565 เฉลี่ยอยู่ที่ 17.68 ล้าน กก./วัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ร้อยละ 7.1 เนื่องจากการใช้ในทุกภาคเพิ่มขึ้น โดยภาคขนส่งอยู่ที่ 2.17 ล้าน กก./วัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 26.9 ภาคอุตสาหกรรมอยู่ที่ 2.04 ล้าน กก./วัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 9.6 ภาคปิโตรเคมีอยู่ที่ 7.74 ล้าน กก./วัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 5.7 และภาคครัวเรือนอยู่ที่ 5.72 ล้าน กก./วัน เพิ่มขึ้น ร้อยละ 2.0
การใช้ NGV เดือนมกราคม – พฤศจิกายน 2565 เฉลี่ยอยู่ที่ 3.39 ล้าน กก./วัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 9.3
การนำเข้าน้ำมันเชื้อเพลิงเดือนมกราคม – พฤศจิกายน 2565 เฉลี่ยอยู่ที่ 991,238 บาร์เรล/วัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 12.9 โดยการนำเข้าน้ำมันดิบอยู่ที่ 921,028 บาร์เรล/วัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 9.0 โดยมูลค่าการนำเข้าน้ำมันดิบอยู่ที่ 106,316 ล้านบาท/เดือน เพิ่มขึ้นร้อยละ 83.2 สำหรับการนำเข้าน้ำมันสำเร็จรูป (น้ำมันเบนซินพื้นฐาน น้ำมันดีเซลพื้นฐาน น้ำมันเตา น้ำมันอากาศยาน และ LPG) เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 70,210 บาร์เรล/วัน คิดเป็นมูลค่าการนำเข้ารวม 6,381 ล้านบาท/เดือน
การส่งออกน้ำมันสำเร็จรูปเดือนมกราคม – พฤศจิกายน 2565 เฉลี่ยอยู่ที่ 158,417 บาร์เรล/วัน ลดลงร้อยละ 22.7 โดยเป็นการส่งออกน้ำมันเบนซิน น้ำมันดีเซล น้ำมันเตา น้ำมันอากาศยาน น้ำมันก๊าด และ LPG คิดเป็นมูลค่าส่งออกรวม 20,352 ล้านบาท/เดือน เพิ่มขึ้นร้อยละ 34.9