พลังงาน เลื่อนใช้ “มาตรการบรรเทาผลกระทบราคาน้ำมันสำหรับผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 120 บาทต่อคนต่อเดือน” ออกไปก่อน เหตุเกรงทับซ้อนการจ่ายเงินดิจิตอล 1 หมื่นบาท และช่วงนี้ราคาน้ำมันโลกปรับลดลง แต่ยืนยันจะเก็บมาตรการช่วยเหลือราคาน้ำมันนี้ไว้ใช้ในเวลาที่เหมาะสม และพร้อมเสนอ ครม. พิจารณาหากราคาน้ำมันโลกพุ่งสูงจนกระทบประชาชนในอนาคต
ผู้สื่อข่าวศูนย์ข่าวพลังงาน (Energy News Center – ENC) รายงานว่า จากกรณีที่คณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) เมื่อวันที่ 27 มิ.ย. 2567 ได้มีมติให้ดำเนิน “มาตรการบรรเทาผลกระทบราคาน้ำมันสำหรับผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ” โดยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบเพื่อมอบสิทธิ์ได้รับความช่วยเหลือค่าน้ำมันแก่ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 120 บาทต่อคนต่อเดือน เป็นเวลา 3 เดือน นับตั้งแต่เดือน ต.ค.-ธ.ค. 2567 นั้น
ขณะนี้มาตรการดังกล่าวยังไม่ได้ถูกนำเสนอต่อ ครม. เนื่องจากในช่วงเดือน ก.ย.- ต.ค. 2567 ที่ผ่านมา เกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง ประกอบกับรัฐบาลได้จ่ายเงินตามโครงการดิจิตอลวอลเล็ตให้ประชาชนกลุ่มที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 10,000 บาทต่อคน ประกอบกับเป็นช่วงที่ราคาน้ำมันโลกปรับตัวลดลงด้วย
ปัจจัยดังกล่าวส่งผลให้กระทรวงพลังงานพิจารณาเห็นว่า “มาตรการบรรเทาผลกระทบราคาน้ำมันสำหรับผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ” ที่กำหนดไว้ควรต้องยกเลิกไปก่อน เนื่องจากเป็นเงินที่จะจ่ายผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเช่นเดียวกับเงินดิจิตอลวอลเล็ต 10,000 บาท ซึ่งอาจจะทำให้เกิดการทับซ้อนในการจ่ายเงินขึ้น
ทั้งนี้กระทรวงพลังงานได้เสนอรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานรับทราบแล้ว และเห็นว่า “มาตรการบรรเทาผลกระทบราคาน้ำมันสำหรับผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ” ยังคงเป็นมาตรการที่จำเป็นต่อประชาชน ดังนั้นจะยังคงเก็บไว้ใช้ในยามจำเป็นและในเวลาที่เหมาะสม เช่น หากเกิดสถานการณ์ราคาน้ำมันโลกพุ่งสูงจากปัญหาสงครามในต่างประเทศ ทางกระทรวงพลังงานก็สามารถนำเสนอมาตรการดังกล่าวต่อ ครม. เพื่อพิจารณาช่วยเหลือราคาน้ำมันกลุ่มเปราะบางต่อไปได้
โดยมาตรการดังกล่าวจะนำมาใช้ได้ต่อเมื่อมีการเสนอ ครม.พิจารณาเห็นชอบในหลักการก่อน จากนั้นจะใช้เวลาประมาณ 2-3 เดือน เพื่อให้ทางสถาบันการเงินทำระบบการจ่ายเงินให้กับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จึงจะเริ่มใช้เงินเพื่อลดราคาน้ำมันได้ต่อไป