กระทรวงพลังงาน เร่งตรวจสอบปั๊มน้ำมันปฏิเสธการจำหน่ายเบนซิน-แก๊สโซฮอล์ หลังภาครัฐปรับลดราคาครั้งใหญ่เมื่อวันที่ 7 พ.ย. 2566 ประชาชนแห่ร้องเรียนปั๊มปิดป้ายน้ำมันหมดแต่เช้า หวั่นเก็งกำไรราคา ย้ำการลดราคาครั้งนี้เป็นการชดเชยจากภาครัฐ ไม่ได้กระทบกำไรผู้ประกอบการ ห้ามปฏิเสธการจำหน่ายเด็ดขาด งัดกฎหมายขู่ระวังเจอโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี ปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ
นายพงศ์พล ยอดเมืองเจริญ โฆษกรัฐมนตรีกระทรวงพลังงาน ชี้แจงกรณีประชาชนร้องเรียนว่า มีสถานีบริการน้ำมันหลายแห่งแจ้งว่าน้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95 และ 91 หมด หลังจากมีการปรับลดราคาตามนโยบายรัฐบาลว่า ราคาน้ำมันมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ เช่น ปรับลดภาษีสรรพสามิตลง 1-2.50 บาทต่อลิตร เมื่อวันที่ 7 พ.ย. 2566 ที่ผ่านมา ทำให้มีเรื่องร้องเรียนเข้ามามาก ว่า สินค้าน้ำมันหมดในหลายปั๊มทั่วประเทศ เกิดเป็นประเด็นคำถามกับผู้ใช้น้ำมันว่า เกิดจากหมดจริง หรือหมดเพราะมีการกักตุนสินค้า
อย่างไรก็ตามจากการตรวจสอบพบว่า สถานีบริการหลายแห่งมีลูกค้าจำนวนมากมาเติมน้ำมัน ทำให้น้ำมันหมดจริง และหลายแห่งติดป้ายน้ำมันหมดตั้งแต่เช้า ทำให้มีข้อสงสัยว่าอาจเป็นพฤติกรรมการกักตุนน้ำมัน เฉพาะแค่บางชนิดที่ลดราคาเยอะ อย่างน้ำมันแก๊สโซฮอล์ 91
ทั้งนี้กระทรวงพลังงานไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้มีการเข้าตรวจสอบหลายสถานีที่มีเรื่องร้องเรียน เพราะประชาชนผู้ใช้น้ำมันได้รับการคุ้มครองทางกฎหมาย ดังนั้นประชาชนสามารถแจ้งกรมธุรกิจพลังงาน (0-2794-4555) หรือ กองตรวจราชการ กระทรวงพลังงาน (02-1406080) เพื่อเข้าไปตรวจสอบปั๊มที่เกิดเหตุ โดยแจ้งรายละเอียดชื่อสถานีบริการ และสถานที่ตั้ง เพื่อประสานกับ กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ ที่มีกฎหมายเฉพาะดูแล
นายพงศ์พล กล่าวด้วยว่า ผู้ประกอบการที่ปฏิเสธการจำหน่ายน้ำมัน ในขณะที่ยังมีน้ำมันในสต็อก จะมีโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี ปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ และขอย้ำว่าการปรับลดราคาน้ำมันครั้งนี้เป็นการชดเชยจากภาครัฐ ไม่ได้กระทบกำไรในส่วนผู้ประกอบการ ดังนั้นจะนำมากล่าวอ้างปฏิเสธการจำหน่ายไม่ได้
