“พรายพล” เสนอ ปรับแผนPDP2018 เพิ่มสัดส่วนผลิตไฟฟ้าพลังงานทดแทนเป็น 40% จากเดิม 30% ชี้จะช่วยลดต้นทุนค่าไฟตลอดแผนต่ำกว่า 3.60บาทต่อหน่วยได้
นายพรายพล คุ้มทรัพย์ อาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เปิดเผยในงานสัมมนา ‘เจาะลึก แผนพีดีพี ทิศทางพลังงานไทย ภายใต้รัฐบาลใหม่ โดยบรรยายในหัวข้อ”วิพากษ์ แผนพีดีพี ในมุมมองนักวิชาการ” ว่า การจัดทำแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศ ปี2561-2580(PDP2018)เมื่อเทียบกับ PDP 2015(ปี2558-2579) แล้วยังไม่ตอบโจทย์การพัฒนาพลังงานที่ยั่งยืนของประเทศใน 3 ด้าน คือ 1. ไม่เป็นการลดการพึ่งพาการนำเข้าเชื้อเพลิงจากต่างประเทศ มีการนำเข้าก๊าซธรรมชาติ ถ่านหิน และซื้อไฟฟ้าพลังน้ำจากต่างประเทศ 2.ยังใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลสูงถึง 80% ไม่ตอบโจทย์การลดปัญหาโลกร้อน และ3.การผลิตไฟฟ้ายังคงต้องพึ่งพาก๊าซฯสูงถึง 60%
ดังนั้น จึงเสนอให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ทบทวนแผนPDP2018 โดยเพิ่มสัดส่วนการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนมากขึ้น จากเดิมปลายแผนปี2580 อยู่ที่ 30% ของกำลังผลิตไฟฟ้ารวม ให้เพิ่มเป็น 40% ของกำลังผลิตไฟฟ้ารวม เพราะจะเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยตอบโจทย์การแก้ไขปัญหาพลังงานอย่างยั่งยืนทั้ง 3 ด้านดังกล่าวได้ อีกทั้งจะช่วยให้ต้นทุนการผลิตไฟฟ้าถูกลงได้ตามเป้าหมายที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กำหนดว่า ค่าไฟฟ้าเฉลี่ยตลอดแผนPDP 2018 ควรต่ำกว่า 3.60 บาทต่อหน่วยได้ เนื่องจากต้นทุนผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนมีแนวโน้มถูกลง โดยเฉพาะการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ (โซลาร์เซลล์) ซึ่งคาดว่า หากมีการเปิดประมูลแข่งขันผลิตไฟฟ้าจากโซลาร์เซลล์เกิดขึ้น จะสามารถผลิตไฟได้ในอัตราเฉลี่ยประมาณ 1.50 บาทต่อหน่วย