พรรคฝ่ายค้าน ชี้นโยบายรัฐบาลลดราคาพลังงานไร้ความชัดเจน

198
ขอขอบคุณภาพจาก สภาปฏิรูปแห่งชาติ
- Advertisment-

พรรคประชาธิปัตย์ จี้รัฐบาลไร้ความชัดเจนนโยบายลดราคาค่าไฟ-น้ำมัน เสนอ 6 ข้อ ตรึงค่า Ft,หยุดอนุมัติโรงไฟฟ้าใหม่ และทบทวนสัญญาซื้อขายไฟฟ้าที่เอื้อเอกชน เป็นต้น ด้านพรรครวมไทยสร้างชาติ ชี้ลดภาษีน้ำมันต้องไม่เป็นภาระการคลังและควรลดค่าไฟฟ้าเฉพาะผู้ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 300 หน่วยต่อเดือน

นายชัยชนะ เดชเดโช สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ อภิปรายกรณีนโยบายเรื่องลดค่าไฟฟ้า และลดราคาน้ำมันว่า ยังไม่ได้รับคำตอบจากการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ทั้งที่เป็นนโยบายเร่งด่วนที่ประชาชนเดือดร้อน แต่กลับไม่ชัดเจนว่ารัฐบาลจะทำอย่างไร จะใช้งบจากที่ไหนลดราคาน้ำมันให้ชาวบ้าน

ตอนนี้ชาวบ้านต้องจ่ายค่าไฟแพง 4-6 บาทต่อหน่วย ได้รับผลกระทบทางตรงและทางอ้อม รวมถึงภาคเกษตรกรรม แต่รัฐยังใช้เงินภาษี 49,000 ล้านบาทต่อปีจ่าย เรียกว่าเป็นการเสียค่าโง่ที่ทำต่อไปบนความเดือดร้อนของประชาชน

- Advertisment -

ทั้งนี้ต้นเหตุของราคาค่าไฟแพงต้องแก้ให้ตรงจุดและหยุดซ้ำเติมประชาชน เนื่องจากการวางแผนไฟฟ้าที่ผิดพลาดและเอื้อประโยชน์เอกชนที่มีประมาณ 30 แห่ง และเอกชนผลิตไฟฟ้า 70% แต่ของรัฐเหลือแค่ 30% ทั้งที่ความมั่นคงด้านพลังงานสำรองแค่ 15% น่าห่วงว่าในอนาคตชาวบ้านจะต้องแบกภาระค่าไฟฟ้าแพง

ดังนั้นจึงอยากเสนอ 6 ข้อในการแก้ปัญหากับนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี คือให้ตรึงค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ  (Ft), หยุดการอนุมัติโรงไฟฟ้าเอกชนใหม่ทั้งในประเทศและการนำเข้าจาก สปป.ลาว , จัดการต้นทุนค่าก๊าซธรรมชาติ ,ทบทวนการทำสัญญาซื้อขายไฟฟ้าที่เอื้อเอกชน ,เร่งสนับสนุนให้ประชาชนพึ่งตนเองด้านพลังงานด้วยโซลาร์รูฟท็อป และรับซื้อไฟฟ้าส่วนเกินจากการใช้กลับสู่ระบบ และหยุดการผูกขาดสัมปทานรัฐกับบริษัทใดบริษัทหนึ่ง

หม่อมหลวงชโยทิต กฤดากร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) แบบบัญชีรายชื่อ พรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวว่า การที่รัฐบาลมีนโยบายลดราคาพลังานโดยทันที เป็นเรื่องจำเป็นเพื่อลดภาระค่าครองชีพ แต่การลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันต้องไม่เป็นภาระต่อวินัยการเงินการคลังด้วย และควรพิจารณาช่วยเหลือเฉพาะกลุ่มเปราะบางที่ใช้ไฟต่ำกว่า 300 หน่วยที่เป็น 80% ของครัวเรือนทั้งประเทศ ช่วยเหลือค่าน้ำมัน ค่าแก๊ส ผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ

พร้อมกันนี้ เห็นด้วยกับการผลักดันพลังงานสะอาด เพราะจะช่วยลดต้นทุนได้ ซึ่งราคาพลังงานสะอาดของไทยอยู่ที่ 2.18 บาทต่อหน่วย ถูกกว่าการนำเข้าเชื้อเพลิงจากต่างประเทศ ซึ่งรัฐบาลก่อนหน้าประกาศว่าภายในปี ค.ศ. 2050 ไทยจะเป็นกลางในการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ในการประชุม COP 27 ซึ่งไทยเป็นประเทศแรกที่ประกาศในอาเซียน จนได้รับการตอบรับว่าน่าเชื่อถือได้มากที่สุดในอาเซียน

Advertisment