ผู้ค้าน้ำมันเรียกเก็บค่าการตลาดน้ำมันแก๊สโซฮอล์ E85 พุ่งสูงสุด 7.74 บาทต่อลิตร แม้คนใช้น้อยลงเหลือ 0.07 ล้านลิตรต่อวัน

107
- Advertisment-

ค่าการตลาดผู้ค้าน้ำมันยังทรงตัวสูงเฉลี่ย 2.25 บาทต่อลิตร โดยเฉพาะกลุ่มเบนซินเฉลี่ย 3 บาทต่อลิตร ขณะน้ำมันแก๊สโซฮอล์ E85 พุ่งสูงสุดถึง 7.74 บาทต่อลิตร ในขณะที่ยอดการใช้เหลือน้อยเพียง 0.07 ล้านลิตรต่อวันเท่านั้น ด้านเงินกองทุนน้ำมันฯ ติดลบลดลงอย่างต่อเนื่อง เหลือ -74,533 ล้านบาท ต่ำสุดในรอบ 2 ปีอีกครั้ง แถมมีเงินไหลเข้าจากผู้ใช้น้ำมันเดือนละกว่า 7 พันล้านบาท ตั้งแต่หยุดชดเชยราคาดีเซล เพียงพอชำระหนี้เงินกู้ธนาคารและดอกเบี้ย ส่วนราคาน้ำมันโลกยังผันผวน คณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) สั่งลดเก็บเงินผู้ใช้ดีเซลส่งเข้ากองทุนฯ เหลือเพียง 0.51 บาทต่อลิตร

ผู้สื่อข่าวศูนย์ข่าวพลังงาน (Energy News Center – ENC) รายงานว่า สำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (สกนช.) ได้ประกาศสถานะเงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงล่าสุด ณ วันที่ 12 ม.ค. 2568 ว่า เงินกองทุนฯ ติดลบลดลงต่อเนื่องเหลือ -74,533 ล้านบาท ซึ่งมาจากบัญชีน้ำมันติดลบน้อยลงเหลือ -27,708 ล้านบาท และบัญชีก๊าซหุงต้ม (LPG) ติดลบเหลือ -46,825 ล้านบาท และยังนับเป็นยอดเงินติดลบต่ำที่สุดในรอบ 2 ปีด้วย

นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 9 ม.ค. 2568 คณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) ยังได้มีมติปรับลดการเรียกเก็บเงินเพื่อส่งเข้ากองทุนฯ สำหรับผู้ใช้น้ำมันดีเซลและดีเซล B20 ลง เหลือ 0.51 บาทต่อลิตร จากเดิมเรียกเก็บอยู่ 0.91 บาทต่อลิตร สำหรับดีเซลเกรดพรีเมียมเก็บลดลงเหลือ 2.01 บาทต่อลิตร จากเดิมเรียกเก็บ 2.41 บาทต่อลิตร เนื่องจากราคาน้ำมันโลกผันผวนปรับตัวสูงขึ้น

- Advertisment -

ส่วนการเรียกเก็บเงินผู้ใช้น้ำมันกลุ่มเบนซินยังคงเรียกเก็บเท่าเดิม ดังนี้ ผู้ใช้น้ำมันเบนซิน ออกเทน 95 ส่งเข้ากองทุนฯ 10.68 บาทต่อลิตร, น้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95 และ 91 ส่งเข้าถึง 4.60 บาทต่อลิตร, น้ำมันแก๊สโซฮอล์ E20 ส่งเข้า 2.61 บาทต่อลิตร, น้ำมันแก๊สโซฮอล์ E85 ส่งเข้า 1.16 บาทต่อลิตร

โดยปัจจุบันกองทุนฯ มีเงินไหลเข้า 262.77 ล้านบาทต่อวัน หรือ กว่า 7,800 ล้านบาทต่อเดือน ส่วนเงินไหลออกจากการชดเชยราคา LPG อยู่ที่ -45.59 ล้านบาทต่อวัน หรือ ไหลออก -1,367 ล้านบาทต่อเดือน ขณะนี้การชำระหนี้เงินต้นคืนสถาบันการเงินในเดือน ม.ค. 2568 อยู่ที่ 833.45 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยรายเดือน 250 ล้านบาทต่อเดือน

ทั้งนี้ในส่วนของค่าการตลาดของผู้ค้าน้ำมัน ที่รายงานโดยสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) ณ วันที่ 13 ม.ค. 2568 พบว่าค่าการตลาดกลุ่มเบนซิน-แก๊สโซฮอล์ยังคงทรงตัวระดับสูง โดยน้ำมันเบนซินออกเทน 95 ถูกเรียกเก็บค่าการตลาด 4.16 บาทต่อลิตร, น้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95 มีค่าการตลาดที่ 3.03 บาทต่อลิตร, น้ำมันแก๊สโซฮอล์ 91 อยู่ที่ 3.12 บาทต่อลิตร, น้ำมันแก๊สโซฮอล์ E20 อยู่ที่ 3.78 บาทต่อลิตร, น้ำมันแก๊สโซฮอล์ E85 อยู่ที่ 7.74 บาทต่อลิตร, ดีเซล อยู่ที่ 1.87 บาทต่อลิตร  โดยเฉลี่ยค่าการตลาดระหว่าง 1-13 ม.ค. 2568 อยู่ที่ 2.25 บาทต่อลิตร (จากค่าการตลาดที่เหมาะสมที่ 1.5-2 บาทต่อลิตร)

สำหรับค่าการตลาดน้ำมันแก๊สโซฮอล์ E85 ที่ปรับขึ้นสูงถึง 7.74 บาทต่อลิตร คาดว่าจะไม่มีผลกระทบมากนัก เนื่องจากปัจจุบันมียอดการใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์ E85 เหลือเพียง 0.07 ล้านลิตรต่อวันเท่านั้น เมื่อเทียบกับน้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95 ที่มียอดการใช้ถึง 17.98 ล้านลิตรต่อวัน และแก๊สโซฮอล์ 91 ที่มียอดการใช้ 7.40 ล้านลิตรต่อวัน รวมทั้งแก๊สโซฮอล์ E20 ที่มียอดการใช้อยู่ที่ 5.42 ล้านลิตรต่อวัน

ขณะที่ราคาน้ำมันโลกล่าสุด ณ วันที่ 13 ม.ค. 2568 เวลาประมาณ 15.00 น. ราคาน้ำมันดิบดูไบอยู่ที่ระดับ 76.28 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล ลดลง 0.71 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล ส่วนน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) อยู่ที่ 77.86 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 1.29 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล  และราคาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) อยู่ที่ 80.99 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 1.23 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล

Advertisment