ไทยได้คะแนนความสะดวกในการประกอบธุรกิจที่สำคัญดีขึ้น ทั้งด้านการเริ่มต้นธุรกิจ การขอใช้ไฟฟ้า การชำระภาษี และด้านการค้าระหว่างประเทศ โดยในการจัดอันดับความยาก – ง่าย ในการประกอบธุรกิจ หรือ Doing Business 2019 อยู่ที่ 27 ของโลก
นายปกรณ์ นิลประพันธ์ เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ ( ก.พ.ร.) เปิดเผยว่า คะแนนรวมทุกด้านในการจัดอันดับให้เป็นประเทศที่มีความสะดวกในการเข้าไปประกอบธุรกิจหรือ Doing Business 2019 โดยการประกาศของธนาคารโลก ในส่วนของประเทศไทยนั้น ได้มากขึ้น อยู่ที่ 78.45คะแนน สูงขึ้นจากปี 2018 ที่ได้คะแนน 77.39 ซึ่งเป็นผลมาจากการอำนวยความสะดวกในการประกอบธุรกิจที่สำคัญ 4 ด้าน ที่ดีขึ้น คือ 1. ด้านเริ่มต้นธุรกิจ ที่กำหนดอัตราค่าธรรมเนียมการจดทะเบียนบริษัทจำกัดใหม่เป็นแบบคงที่ ในอัตราเดียว คือ 5,500 บาท ทำให้เสียค่าธรรมเนียมถูกลง
2.ด้านการขอใช้ไฟฟ้า อันดับไทยดีขึ้นชัดเจนอยู่อันดับ 6 จากอันดับ 13 หลังจากลดระยะเวลาการขอใช้ไฟฟ้าให้เร็วขึ้น 3.ด้านการชำระภาษี ลดระยะเวลาการยื่นภาษีเงินได้นิติบุคคลจาก 156 ชั่วโมง เหลือ 154 ชั่วโมง และนำดิจิทัลมาใช้ในการลดเวลา และต้นทุนลงอีก และ 4.ด้านการค้าระหว่างประเทศ ลดระยะเวลาและขั้นตอนในการตรวจสอบเอกสารการนำเข้าและส่งออกสินค้า
โดยทำให้ผลการจัดอันดับความยาก – ง่าย ในการประกอบธุรกิจ หรือ Doing Business 2019 ของไทยอยู่ในอันดับที่ 27 จาก 190 ประเทศทั่วโลก หรือเป็นอันดับที่ 3 ของอาเซียน รองจากสิงคโปร์ และมาเลเซีย อย่างไรก็ตามแม้ว่าคะแนนรวมจะดีขึ้น แต่อันดับของไทยลดลง 1อันดับ จากที่ในปี2018 อยู่อันดับที่26
ทั้งนี้ในการจัดอันดับในครั้งต่อไปประเทศไทยจะพยายามทำให้ทั้งคะแนนและอันดับดีขึ้นอีก โดยการที่รัฐจะร่วมมือกับภาคเอกชน นำระบบดิจิทัลเข้ามาปรับปรุงในด้านต่างๆ โดยเฉพาะเรื่องการรับจ่ายเงิน เพื่อกำจัดต้นทุนแฝงต่าง ๆ ทำให้เกิดความโปร่งใส มากขึ้น