ปตท.เปิดข้อมูลก๊าซปี63 ยอดใช้ลด 409 ล้านลบ.ฟุตต่อวัน Spot LNG พระเอกช่วยลดค่าไฟ

981
- Advertisment-

ปตท.เปิดข้อมูลภาพรวมดีมานด์และซัพพลายก๊าซธรรมชาติในปี 2563 ความต้องการใช้ลดลง 409 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน เมื่อเทียบกับปี 2562 เพราะผลจากโควิด-19 ที่กระทบต่อเศรษฐกิจ ในขณะที่การนำเข้า Spot LNG ของปตท. มีบทบาทในการช่วยลดค่าไฟให้ถูกลง โดยมีราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 2.5 เหรียญสหรัฐต่อล้านบีทียู

เมื่อวันที่ 10 พ.ย.2563 ปตท.พาคณะสื่อมวลชนสายพลังงาน อุตสาหกรรม และตลาดหลักทรัพย์  เข้าเยี่ยมชม มาบตาพุด แอลเอ็นจี เทอร์มินอล ของบริษัท PTTLNG และรับฟังการบรรยายภาพรวมธุรกิจก๊าซธรรมชาติของ ปตท. จากนายวุฒิกร สติฐิต รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ หน่วยธุรกิจก๊าซธรรมชาติ

วุฒิกร สติฐิต รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ หน่วยธุรกิจก๊าซธรรมชาติ ปตท.

โดยนายวุฒิกร กล่าวว่า การใช้ก๊าซธรรมชาติในปี 2563 มีปริมาณเฉลี่ย 4,403 ล้าน ลบ.ฟุตต่อวัน ลดลง 409 ล้าน ลบ.ฟุตต่อวัน จากปี 2562 ที่มีการใช้อยู่ที่ 4,812 ล้าน ลบ.ฟุตต่อวัน โดยเป็นการใช้ลดลงในส่วนของโรงแยกก๊าซและภาคขนส่ง และมีการคาดการณ์ว่าในปี 2564 การใช้จะลดลงต่อเนื่องจากปี 2563 เล็กน้อย คือ อยู่ที่ 4,356 ล้าน ลบ.ฟุตต่อวัน

- Advertisment -

ทั้งนี้ในปี 2563 ปตท.มีการนำเข้า LNG เพิ่มมากขึ้นเมื่อเทียบกับปี 2562 คือจาก 15% ของการจัดหาก๊าซทั้งหมด เพิ่มขึ้นมาเป็น 18% หรือ ปริมาณ 5.6-5.7ล้านตัน โดยเป็นการนำเข้าตามสัญญาระยะยาว ปริมาณ 5.2 ล้านตัน และนำเข้าแบบ Spot ปริมาณ 0.5 ล้านตัน

ซึ่งการนำเข้าในรูปแบบ Spot ที่มากขึ้นเนื่องจาก LNG และSpot มีราคาถูก คิดเป็นราคาเฉลี่ยที่ปตท.นำเข้าอยู่ที่ 2.5 เหรียญสหรัฐต่อล้านบีทียู และมีส่วนสำคัญที่ช่วยให้ค่าไฟฟ้าในส่วนของค่าเอฟที มีราคาที่ถูกลง ในขณะที่แนวโน้มราคา Spot LNG ปัจจุบันปรับสูงขึ้นมาแตะระดับ 7 เหรียญสหรัฐต่อล้านบีทียูแล้ว

สำหรับความก้าวหน้าของการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านก๊าซธรรมชาตินั้น โครงการท่อส่งก๊าซธรรมชาติบนบกเส้นที่ 5 ซึ่งจะช่วยเพิ่มความมั่นคงด้านพลังงานในประเทศ เพราะจะเชื่อมโยงกำลังการส่งก๊าซธรรมชาติจากฝั่งตะวันออกไปยังโครงข่ายระบบท่อส่งก๊าซธรรมชาติฝั่งตะวันตก ปัจจุบัน คืบหน้าแล้ว 90.7% จะแล้วเสร็จบางส่วนในเดือน ก.ค.ปี 2564 และเสร็จสมบูรณ์ในปี 2565

ส่วนโครงการก่อสร้างคลังรับ-จ่าย LNG แห่งที่ 2 ที่หนองแฟบ อีก 7.5 ล้านตันต่อปี ที่จะเพิ่มความสามารถรองรับ LNG ของปตท.เป็น 19 ล้านตันต่อปี ปัจจุบันมีความคืบหน้าแล้ว 58.6 % จะแล้วเสร็จในปี 2565 ซึ่งจะทำให้ไทยมีความพร้อมที่จะเป็น ศูนย์กลางการค้าขาย LNG ในภูมิภาค หรือ Regional LNG Hub ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการทดสอบระบบเพื่อเตรียมความพร้อมในหลายๆด้านแล้ว

 

 

Advertisment