ปตท. รายงานปริมาณสำรองและปริมาณการผลิตสหรัฐฯที่เพิ่มขึ้นกดดันราคาน้ำมันดิบเฉลี่ยสัปดาห์ที่ผ่านมา

399
- Advertisment-

ทีมวิเคราะห์ตลาดต่างประเทศ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) รายงานว่า ราคาน้ำมันดิบเฉลี่ยสัปดาห์ล่าสุดปรับตัวลดลง เนื่องจากปริมาณสำรองน้ำมันดิบและปริมาณการผลิตน้ำมันในสหรัฐฯพุ่งสูงขึ้น อย่างไรก็ตามช่วงปลายสัปดาห์ราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น หลังจีนผ่อนคลายมาตรการควบคุม COVID-19 อาทิ คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติของจีน (National Health Commission: NHC) ประกาศลดเวลากักตัว สำหรับผู้ใกล้ชิดผู้ป่วย ลงอีก 2 วัน เหลือ 5 วัน ที่ศูนย์กักกัน (จากเดิม 7 วัน) กักตัวที่บ้านต่ออีก 3 วัน คงเดิม และไม่ระบุผู้ใกล้ชิดระดับรองอีกต่อไป, สำหรับผู้เดินทางที่ใกล้ชิดผู้ป่วย ลดการกักตัว เหลือ 8 วัน (จากเดิม 10 วัน), ลดการทดสอบ COVID-19 ภายใน 48 ชั่วโมง ก่อนเดินทาง เหลือครั้งเดียว (จากเดิม 2 ครั้ง) และยกเลิกบทลงโทษสายการบินที่มีผู้โดยสารติดเชื้อ, ปรับการจัดประเภทพื้นที่เสี่ยง เป็น “สูง” และ “ต่ำ” (จากเดิม “สูง” “ปานกลาง” และ “ต่ำ”) และหากไม่พบผู้ป่วยใหม่ในพื้นที่ ที่มีความเสี่ยงสูงเป็นเวลา 5 วัน จะปรับเป็นพื้นที่ความเสี่ยงต่ำ เป็นต้น

เงินดอลลาร์สหรัฐฯ อ่อนค่าต่อเนื่อง โดยดัชนีดอลลาร์ (DXY Index) ซึ่งเทียบกับตะกร้าเงินสกุลหลักของโลก วันที่ 10 พ.ย. 65 ลดลงกว่า 2% อยู่ที่ 108.10 จุด และวันที่ 11 พ.ย. 65 ลดลง 1.6% อยู่ที่ 106.42 จุด เป็นการลดลงสองวันติดต่อกันมากที่สุดนับตั้งแต่ มี.ค. 52

รมว.กระทรวงการคลังของสหรัฐฯ นาง Janet Yellen กล่าวถึงมาตรการจำกัดราคาน้ำมัน (Price Cap) ว่าอินเดียจะซื้อน้ำมันดิบจากรัสเซีย ที่ราคาเท่าไหร่ก็ได้ หากจะไม่ใช้เรือ ประกันภัย และการบริการทางการเงิน จากชาติพันธมิตรตะวันตก ซึ่งราคาน้ำมันดิบ Urals ของรัสเซียไม่ควรอยู่ที่ระดับเกิน 63-64 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล 

- Advertisment -

ปัจจัยที่กระทบต่อราคาน้ำมันดิบในเชิงลบ

  • COVID-19 กลับมาระบาดในจีน ทางการประกาศ Lockdown บางส่วนที่เมือง Guangzhou มณฑล Guangdong ทางตอนใต้ กระทบประชาชนกว่า 19 ล้านคน และโรงงานอุตสาหกรรมหลายแห่งต้องระงับการผลิต อาทิ Xpeng Inc. ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้ารายใหญ่ของจีน ทั้งนี้ Guangzhou เป็นศูนย์กลางโรงงานผลิตสินค้าอุตสาหกรรมที่สำคัญของจีน
  • EIA ของสหรัฐฯ รายงานปริมาณสำรองน้ำมันดิบเชิงพาณิชย์ สัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 4 พ.ย. 65 เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อนหน้า 3.9 ล้านบาร์เรล อยู่ที่ 440.8 ล้านบาร์เรล สูงสุดนับตั้งแต่ ก.ค. 64 ขณะที่ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อนหน้า 200,000 บาร์เรลต่อวัน อยู่ที่ 12.1 ล้านบาร์เรลต่อวัน
  • Reuters รายงานว่าคาซัคสถานผลิตน้ำมันดิบในเดือน ต.ค. 65 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้า 7% อยู่ที่ 1.4 ล้านบาร์เรลต่อวัน เนื่องจากแหล่งนอกชายฝั่ง Kashagan (กำลังการผลิต 400,000 บาร์เรลต่อวัน) กลับมาผลิตได้บางส่วน ประมาณ 317,000 บาร์เรลต่อวัน หลังเกิดเหตุก๊าซฯ รั่วไหลเมื่อ 3 ส.ค. 65

ปัจจัยที่กระทบต่อราคาน้ำมันดิบในเชิงบวก

  • Reuters รายงานว่าอินเดียนำเข้าน้ำมันดิบ ในเดือน ต.ค. 65 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้า 14.6% อยู่ที่ 4.48 ล้านบาร์เรลต่อวัน เนื่องจากโรงกลั่นกลับมาดำเนินการหลังปิดซ่อมบำรุง ขณะที่นำเข้าเฉลี่ยช่วง ม.ค.- ต.ค. 65 เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า 13.6% อยู่ที่ 4.6 ล้านบาร์เรลต่อวัน
  • Bloomberg รายงานว่า Kuwait Integrated Petroleum Industries Co. (KIPIC) ของคูเวตเริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์ โรงกลั่นน้ำมัน Al-Zour และมีแผนดำเนินการจนเต็มกำลัง ที่ 615,000 บาร์เรลต่อวัน ในเดือน ม.ค. 66 ซึ่งจะทำให้คูเวตมีกำลังการกลั่นรวมอยู่ที่ 1.5 ล้านบาร์เรลต่อวัน ทั้งนี้ Al-Zour ถือเป็นโรงกลั่นสร้างใหม่ซึ่งใหญ่ที่สุดในตะวันออกกลาง
Advertisment