บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) ประกาศปรับขึ้นราคาก๊าซ NGV ทั่วไป 80 สตางค์ต่อกิโลกรัม อยู่ที่ 18.70 บาทต่อกิโลกรัม และกลุ่มรถโดยสารสาธารณะ หมวด 2 และหมวด 3 ขึ้นอีก 69 สตางค์ต่อกิโลกรัม อยู่ที่ 18.59 บาทต่อกิโลกรัม มีผล 16 ก.พ.- 15 มี.ค.2568 ถือเป็นการปรับขึ้นรอบแรกของปี 2568 เพื่อสะท้อนต้นทุนที่แท้จริง โดย ปตท. แบกภาระค่า NGV ตั้งแต่ปี 2564 ถึงปัจจุบันรวม 18,191 ล้านบาท
ผู้สื่อข่าวศูนย์ข่าวพลังงาน (Energy News Center – ENC) รายงานว่า บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) หรือ PTT ประกาศปรับขึ้นราคาก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์ (NGV) ทั่วไป จำนวน 80 สตางค์ต่อกิโลกรัม ส่งผลให้ราคาอยู่ที่ 18.70 บาทต่อกิโลกรัม มีผลระหว่างวันที่ 16 ก.พ.- 15 มี.ค. 2568 จากเดิมราคาอยู่ที่ 17.90 บาทต่อกิโลกรัม ทั้งนี้เป็นไปตามกลไกตลาดของต้นทุนราคา โดยราคา NGV สำหรับรถยนต์ทั่วไป ทาง ปตท.จะพิจารณาทบทวนราคาทุกๆ 1 เดือน
ขณะที่การปรับราคา NGV สำหรับรถโดยสารธารณะ ล่าสุด รอบวันที่ 16 ก.พ.-15 มี.ค. 2568 ราคามีการเปลี่ยนแปลงดังนี้ กลุ่มรถแท็กซี่และรถโดยสารสาธารณะ หมวด 1 และหมวด 4 (ไม่รวมรถ ขสมก.) ราคาคงเดิม อยู่ที่ 15.59 บาทต่อกิโลกรัม
ส่วนกลุ่มรถโดยสารสาธารณะ หมวด 2 และหมวด 3 ราคาปรับขึ้น 69 สตางค์ต่อกิโลกรัม มาอยู่ที่ 18.59 บาทต่อกิโลกรัม (เป็นราคาที่ถูกว่าราคา NGV ทั่วไป 0.11 บาทต่อกิโลกรัม)
อย่างไรก็ตาม ปตท. ยังสนับสนุนส่วนลดราคาขายปลีก NGV สำหรับกลุ่มผู้ใช้ NGV ทั่วไปและกลุ่มผู้ขับขี่รถแท็กซี่สาธารณะในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย. 2564- 5 ก.พ. 2568 รวมเป็นมูลค่า 18,191 ล้านบาท
ทั้งนี้ ที่ผ่านมากระทรวงพลังงานได้ขอความร่วมมือ ปตท. ให้ช่วยตรึงราคา NGV มาตั้งแต่ปี 2564 ซึ่งเป็นช่วงที่เกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 โดย ปตท. ได้จัดทำเป็น “โครงการ NGV เพื่อลมหายใจเดียวกัน” และช่วยตรึงราคา NGV ไว้ที่ 14.62 บาทต่อกิโลกรัม สำหรับผู้ใช้ NGV ทุกราย โดยตลอดปี 2564-2566 ปตท. ได้แบกรับภาระค่า NGV ไว้ประมาณ 17,000 ล้านบาท
ต่อมาเมื่อสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลายลง ในปี 2567 กระทรวงพลังงานพิจารณาเห็นว่าเศรษฐกิจประเทศยังชะลอตัว จึงขอความร่วมมือ ปตท. ให้ช่วยตรึงราคา NGV ต่อไปอีก 2 ปี ตั้งแต่ปี 2567-2568 ดังนั้นทาง ปตท. จึงได้ปรับเปลี่ยนจาก “โครงการ NGV เพื่อลมหายใจเดียวกัน” มาเป็น “โครงการบัตรสิทธิประโยชน์กลุ่มรถโดยสารสาธารณะ” พร้อมกับการปรับเปลี่ยนราคาใหม่
โดยแบ่งเป็นกลุ่มผู้ใช้ NGV ทั่วไป จะไม่ได้รับการช่วยเหลือและต้องซื้อ NGV ในราคาที่เป็นไปตามกลไกตลาด ส่วนกลุ่มรถแท็กซี่และรถโดยสารสาธารณะจะยังได้รับการช่วยเหลือ แต่ก็มีการปรับราคาจากที่ตรึงไว้ที่ 14.62 บาทต่อกิโลกรัม ขยับขึ้นมาเป็น 15.59 บาทต่อกิโลกรัมจนถึงปัจจุบัน ทำให้ภาระค่า NGV ที่ ปตท. ต้องแบกรับไว้ลดลง เหลือประมาณปีละเกือบ 1,100 ล้านบาท จากเดิม 3 ปี (พ.ศ. 2564-2566) แบกภาระต้นทุน NGV ไว้ถึงประมาณ 17,000 ล้านบาท